อะไรที่ทำให้เราป่วย ลองมองย้อนไปต้นทางดูสิ
-
0:01 - 0:02กว่าสิบปีมาแล้วที่ผมเป็นหมอ
-
0:02 - 0:05ผมได้รักษาเหล่าทหารผ่านศึก
ซึ่งกลายเป็นคนเร่ร่อน -
0:05 - 0:07รักษาครอบครัวชนชั้นแรงงาน
-
0:07 - 0:11ผมได้ดูแลรักษาผู้คน
ที่อาศัยและทำงาน -
0:11 - 0:14ในสภาวะอันยากลำบาก
-
0:14 - 0:16และมันทำให้ผมเชื่อว่า
-
0:16 - 0:18เราต้องมีมุมมองพื้นฐานที่ต่างออกไป
-
0:18 - 0:20ต่อการบริการสาธารณสุข
-
0:20 - 0:21เราต้องการระบบสาธารณสุข
-
0:21 - 0:23ที่เป็นมากกว่าการดูแลรักษาตามอาการ
-
0:23 - 0:25ที่ทำให้พวกเขามาที่โรงพยาบาล
-
0:25 - 0:28แต่เราต้องตรวจไปถึงสาเหตุ
-
0:28 - 0:30และพัฒนาสุขภาพของผู้คน
ตั้งแต่ต้นทางกันเลย -
0:30 - 0:32ต้นทางของการเจ็บป่วยนั้น
-
0:32 - 0:35เราหาไม่พบในห้องตรวจหรอกครับ
-
0:35 - 0:36แต่มันอยู่ในที่ที่พวกเราอาศัย
-
0:36 - 0:38ที่ที่พวกเราทำงาน
-
0:38 - 0:41ที่ที่เรากิน, นอน, เรียนรู้และเล่น,
-
0:41 - 0:45ที่ที่เราใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับมัน
-
0:45 - 0:48แล้วแนวทางใหม่ของการบริการทางสุขภาพนี้
-
0:48 - 0:51ที่ทำให้สุขภาพของเราพัฒนาได้ตั้งแต่ต้นทาง
มีหน้าตาอย่างไร? -
0:51 - 0:55เพื่อให้เข้าใจง่ายนะครับ
ผมจะเล่าเรื่องของเวโรนิกาให้ฟัง -
0:55 - 0:56เวโรนิกาเป็นคนไข้รายที่ 17
-
0:56 - 0:58ในวันที่ผมมีคนไข้ 26 คน
-
0:58 - 1:01ที่คลินิกที่เซาท์เซนทรัลลอสแอนเจลิส
-
1:01 - 1:04เธอเข้ามาที่คลินิกด้วยอาการปวดหัวเรื้อรัง
-
1:04 - 1:05อาการนี้เรื้อรังอยู่หลายปี
-
1:05 - 1:07และในกรณีนี้
-
1:07 - 1:09เป็นปัญหาที่ก่อความรำคาญมากๆ
-
1:09 - 1:12จริงๆ แล้วสามสัปดาห์
ก่อนที่เธอจะมาที่คลินิกผม -
1:12 - 1:15เธอได้ไปที่แผนกฉุกเฉินสักที่
ในลอส แอนเจลิสมาก่อนแล้ว -
1:15 - 1:18คุณหมอแผนกฉุกเฉินได้พูดกับเธอว่า
-
1:18 - 1:20"เราได้ผลตรวจของเธอมาแล้ว เวโรนิกา
-
1:20 - 1:22ผลตรวจก็ดูปกติดี
งั้นผมจ่ายยาแก้ปวดให้คุณนะ -
1:22 - 1:25แล้วตามดูอาการ
กับคุณหมออายุรกรรมอีกที -
1:25 - 1:27แต่ถ้าอาการปวดยังไม่หายหรือแย่ลง
-
1:27 - 1:28คงต้องกลับมาอีกทีนะ"
-
1:28 - 1:31เวโรนิกาก็ทำตามคำแนะนำของหมอ
-
1:31 - 1:33และเธอก็กลับไปอีก
-
1:33 - 1:36เธอไม่ได้กลับไปแค่ครั้งเดียว
แต่กลับไปอีกสองครั้ง -
1:36 - 1:39ในสามสัปดาห์ก่อนที่เวโรนิกาจะมาพบเรานั้น
-
1:39 - 1:41เธอไปที่แผนกฉุกเฉินถึงสามครั้ง
-
1:41 - 1:43เธอไปหาหมอหลายครั้ง
-
1:43 - 1:45เข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลและคลินิก
-
1:45 - 1:46เหมือนที่เธอเคยทำให้หลายปีที่ผ่านมา
-
1:46 - 1:50พยายามหาวิธีรักษาแต่ก็ไม่หายเสียที
-
1:50 - 1:52เมื่อเวโรนิกาเข้ามาที่คลินิกของเรา
-
1:52 - 1:54แม้ว่าตอนนั้นเธอจะได้รักษา
กับผู้เชี่ยวชาญหลายท่านแล้ว -
1:54 - 1:57แต่เธอก็ยังคงป่วยอยู่
-
1:57 - 2:01ดังนั้นเมื่อเธอมาหาเรา
เราก็ได้ลองหาวิธีการอื่นๆ ดู -
2:01 - 2:04วิธีของเราเริ่มจาก
ผู้ช่วยแพทย์ครับ -
2:04 - 2:06ผู้ช่วยคนนี้จบแค่มัธยมครับ
-
2:06 - 2:07แต่เขารู้จักแถบที่เธออยู่ดี
-
2:07 - 2:09ผู้ช่วยของเราได้ถามคำถามทั่วๆ ไปกับเธอ
-
2:09 - 2:12เธอถามว่า "คุณเป็นอะไรมา"
-
2:12 - 2:14"ปวดหัวค่ะ"
-
2:14 - 2:15"ลองตรวจสัญญาณชีพดูนะ"
-
2:15 - 2:18เราก็วัดความดัน ชีพจร
-
2:18 - 2:20แต่เมื่อลองเราถามบางอย่าง
ที่สำคัญไม่แพ้กัน -
2:20 - 2:22กับเวโรนิกาและผู้ป่วยแบบเดียวกับเธอ
-
2:22 - 2:24ในตอนใต้ของลอสแอนเจลิสว่า
-
2:24 - 2:26"เวโรนิกา คุณช่วยอธิบาย
บ้านที่คุณอยู่หน่อยสิ" -
2:26 - 2:28เอาแบบเจาะจงหน่อยนะ
เช่น สภาพบ้าน -
2:28 - 2:30มีราไหม มีน้ำรั่วบ้างไหม
-
2:30 - 2:33มีแมลงสาบในบ้านหรือเปล่า"
-
2:33 - 2:35ปรากฏว่า เวโรนิกาไม่ปฏิเสธ
ทั้งสามอย่างนั้นเลยครับ -
2:35 - 2:37แมลงสาบ, น้ำรั่ว, เชื้อรา
-
2:37 - 2:40แล้วผมก็ได้อ่านเวชระเบียนของเธอ
อย่างละเอียด -
2:40 - 2:42จากนั้นก็เปิดประตู
-
2:42 - 2:44เข้าห้องตรวจไปหาเธอ
-
2:44 - 2:45คุณต้องเข้าใจว่าเวโรนิกา
-
2:45 - 2:48ก็เหมือนกับผู้ป่วยที่ผมได้เคย
ดูแลมาก่อน -
2:48 - 2:50พวกเขาเคยเป็นคนที่มีสง่า
มีหน้ามีตา -
2:50 - 2:52และมีบุคลิกที่ดีมาก่อน
-
2:52 - 2:54แต่ในเวโรนิกาในตอนนี้
-
2:54 - 2:57เธอนั่งอยู่ตรงโต๊ะตรวจ
อย่างหมดสภาพ -
2:57 - 3:01เธอเอามือกุมหัวเพราะอาการของเธอ
-
3:01 - 3:02เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมา
-
3:02 - 3:05ผมทักเธอว่า "สวัสดีครับ"
-
3:05 - 3:07แล้วผมก็สังเกตบางอย่าง
-
3:07 - 3:08ตรงสันจมูกของเธอ
-
3:08 - 3:10มันเป็นรอยย่นๆ
-
3:10 - 3:14ในทางการแพทย์แล้วเราเรียกรอยย่นนี้ว่า
รอยภูมิแพ้ (allergy salute) -
3:14 - 3:17เราพบมันได้บ่อยในเด็กๆ
ที่เป็นโรคภูมิแพ้เรื้อรัง -
3:17 - 3:19โดยรอยย่นนี้มาจากการที่
มีการถูกจมูกขึ้นลงเป็นเวลานาน -
3:19 - 3:22เพื่อบรรเทาอาการคัดจมูกจากภูมิแพ้
-
3:22 - 3:24แล้วเราก็พบอาการนี้ในเวโรนิกา
-
3:24 - 3:26ซึ่งแสดงว่าเธอมีอาการของภูมิแพ้อยู่
-
3:26 - 3:29หลังจากจากซักประวัติเธอซักพัก
-
3:29 - 3:31รวมถึงตรวจร่างกายเธอ
-
3:31 - 3:34ผมก็พูดกับเธอว่า "เวโรนิกา
ผมคิดว่าผมรู้แล้วว่าคุณเป็นอะไร -
3:34 - 3:36ผมคิดว่าคุณเป็นโรคภูมิแพ้เรื้อรัง
-
3:36 - 3:38และผมคิดว่าคุณเป็นไมเกรน
และไซนัสอักเสบร่วมด้วย -
3:38 - 3:42ทั้งหมดนี่ผมคิดว่ามันเนื่องมาจาก
บ้านของคุณนะ" -
3:42 - 3:44เธอดูคลายกังวลไปนิดหน่อย
-
3:44 - 3:46เพราะนี่คือครั้งแรก
ที่เธอได้รับการวินิฉัย -
3:46 - 3:48แต่ผมกล่าวอีกว่า
"เราต้องคุยถึงการรักษาแล้วล่ะ -
3:48 - 3:51ผมจะสั่งยาเพื่อบรรเทา
อาการของคุณนะ -
3:51 - 3:55แต่ผมต้องส่งต่อเคสคุณ
ให้กับผู้เชี่ยวชาญด้วย ถ้าคุณตกลง" -
3:55 - 3:57ทีนี้ ผู้เชี่ยวชาญที่ผมว่า
ก็ไม่ได้หาตัวง่ายเลย -
3:57 - 3:59ในเขตตอนใต้ของลอส แอนเจลิส
-
3:59 - 4:02เธอเลยทำท่าว่า "จริงเหรอคะ"
-
4:02 - 4:04และผมก็บอกเธอว่า "จริงๆ แล้ว
ผู้เชี่ยวชาญที่ผมหมายถึงนั้น -
4:04 - 4:07คือ อาสาสมัครสาธารณสุขชุมชนนั่นเอง
-
4:07 - 4:08ถ้าคุณตอบตกลงนะ
-
4:08 - 4:09เขาจะไปที่บ้าน
-
4:09 - 4:11ไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น
-
4:11 - 4:12พวกน้ำรั่ว เชื้อรา
-
4:12 - 4:16เขาจะไปช่วยคุณจัดการปัญหาในบ้านพวกนี้
ที่ผมคิดว่าเป็นที่มาของอาการที่คุณเป็นอยู่ -
4:16 - 4:18แล้วถ้าจำเป็นนะ
อสม.ก็จะส่งต่อคุณ -
4:18 - 4:21ไปยังผู้เชี่ยวชาญอีกคน
นั่นก็คือทนายอาสา -
4:21 - 4:23เพราะว่าเจ้าของบ้านเช่านั้นอาจจะ
-
4:23 - 4:26ไม่ได้ซ่อมแซมบ้านเขาให้ดีอย่างที่ควร"
-
4:26 - 4:28เวโรนิกากลับมาหาเราสองสามเดือนถัดมา
-
4:28 - 4:31เธอเห็นด้วยกับแผนการรักษานี้
-
4:31 - 4:34เธอบอกเราว่าอาการของเธอนั้น
ดีขึ้นกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ -
4:34 - 4:36เธอไปทำงานได้นานขึ้น
-
4:36 - 4:38ใช้เวลากับครอบครับได้มาก
-
4:38 - 4:42และไปแผนกฉุกเฉินน้อยลง
-
4:42 - 4:44อาการของเวโรนิกาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
-
4:44 - 4:46เธอมีลูกชายที่ป่วยเป็นหอบหืด
-
4:46 - 4:48ซึ่งลูกเธอก็หายจากหอบหืดที่เคยเป็นเลย
-
4:48 - 4:50เธอดีขึ้น และไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่
-
4:50 - 4:54บ้านของเธอจะดีขึ้นด้วย
-
4:54 - 4:56เรื่องที่กล่าวมานี้
คือวิธีที่แตกต่าง -
4:56 - 5:00ที่ทำให้เรารักษาคนป่วยได้ดีขึ้น
-
5:00 - 5:03ไปโรงบาลน้อยลง
มีสุขภาพที่ดีขึ้น -
5:03 - 5:05ง่ายๆครับ มันเริ่มจากคำถามที่ว่า
-
5:05 - 5:08"เวโรนิกา บ้านคุณเป็นอย่างไรบ้าง"
-
5:08 - 5:11แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ ระบบ
-
5:11 - 5:13ระบบที่ให้เราซักประวัติ
ด้วยคำถามทั่วไป -
5:13 - 5:15กับเวโรนิกาและคนอีกมากที่คล้ายเธอ
-
5:15 - 5:17เกี่ยวกับความเป็นอยู่ของพวกเขาในสังคม
-
5:17 - 5:19ที่ๆสุขภาพของพวกเขา
-
5:19 - 5:22และรวมถึงความเจ็บป่วย ได้เริ่มขึ้น
-
5:22 - 5:24ในที่อย่าง แอลเอ ตอนใต้นี้
-
5:24 - 5:26ที่อยู่อาศัยที่ต่ำกว่ามาตรฐาน
-
5:26 - 5:28และอาหารแย่ๆ นั้นคือปัจจัยสำคัญ
-
5:28 - 5:29ที่เป็นปัญหาพวกเราได้ตระหนักดี
-
5:29 - 5:31แต่ในสังคมอื่นๆ มันอาจจะเป็น
-
5:31 - 5:33การขนส่งมวลชน, โรคอ้วน
-
5:33 - 5:37พื้นที่สีเขียว ความรุนแรงจากอาวุธปืน
-
5:37 - 5:39สิ่งที่สำคัญคือ เราต้องมีระบบ
-
5:39 - 5:40มีวิธีที่มันใช้ได้จริง
-
5:40 - 5:43และวิธีการนั้น
ผมเรียกว่าการมองไปย้อนต้นทาง -
5:43 - 5:44จริงๆคำนี้คุณก็อาจคุ้นๆอยู่
-
5:44 - 5:46มันมาจากเรื่องเล่าที่คุ้นกันดี
-
5:46 - 5:49ในวงการสาธารณสุข
-
5:49 - 5:51เขาเล่าว่า มีคนสามคนเป็นเพื่อนกัน
-
5:51 - 5:53ลองคิดว่าคุณเป็นหนึ่งในสามคนนั้น
-
5:53 - 5:55ได้เดินทางมาถึงแม่น้ำ
-
5:55 - 5:58วิวตรงนั้นมันสวยมาก
แต่ก็มีเด็กคนหนึ่งกำลังร้องไห้อยู่ -
5:58 - 6:01แล้วก็ยังมีเด็กสี่ห้าคนกำลังจมน้ำ
ร้องขอความช่วยเหลืออยู่ -
6:01 - 6:03แน่นอนคุณก็คงทำเหมือนที่ทุกคนทำ
-
6:03 - 6:05คุณโดดลงไปในน้ำกับเพื่อนของคุณ
-
6:05 - 6:07เพื่อนคนแรกพูดว่า เธอจะช่วยเด็ก
-
6:07 - 6:08คนที่กำลังจะจมน้ำ
-
6:08 - 6:10เด็กพวกนี้กำลังจะตกไปกับน้ำตกอยู่แล้ว
-
6:10 - 6:12เพื่อนคนที่สองก็พูดบ้างว่า
เธอจะสร้างแพ -
6:12 - 6:14เพื่อที่จะแน่ใจว่ามีเด็กตกลงไปในน้ำตก
-
6:14 - 6:15จำนวนน้อยที่สุด
-
6:15 - 6:17เรามาช่วยกันต่อแพเถอะ
-
6:17 - 6:18เด็กๆจะได้รอดมากขึ้น
-
6:18 - 6:20เอาไม้มามัดรวมกันเร็ว
-
6:20 - 6:22เวลาผ่านไป พวกเขาช่วยเด็กๆ ได้
แต่ก็ไม่ทั้งหมด -
6:22 - 6:23แค่บางส่วนเท่านั้น
-
6:23 - 6:25ยังมีเด็กๆตกลงไป
และสองคนนั้นก็มองขึ้นมา -
6:25 - 6:27มองหาเพื่อนอีกคน
-
6:27 - 6:28ที่หายไปไหนก็ไม่รู้
-
6:28 - 6:29แต่สุดท้ายสองคนนั้นก็พบเธอ
-
6:29 - 6:31เธออยู่ในแม่น้ำ ว่ายน้ำห่างไปจากพวกเขา
-
6:31 - 6:34ขึ้นสวนกระแสไป และช่วยเด็กๆไปด้วย
-
6:34 - 6:35สองคนนั้นตะโกนถาม
"จะไปไหน -
6:35 - 6:37ยังมีเด็กให้ช่วยตรงนี้อีกนะ"
-
6:37 - 6:38และเธอตอบกลับมาว่า
-
6:38 - 6:39"ฉันจะไปดูว่า
-
6:39 - 6:43ใครหรือตัวอะไรมันโยนเด็กลงมาในแม่น้ำนี่"
-
6:43 - 6:46ในทางการแพทย์แล้ว เรามีเพื่อนคนแรก
-
6:46 - 6:47คนที่เป็นหมอเฉพาะทาง
-
6:47 - 6:50เรามีหมอผ่าตัด เรามีพยาบาลไอซียู
-
6:50 - 6:51เรามีหมอแผนกฉุกเฉิน
-
6:51 - 6:54เรามีพวกเขาเหล่านี้ เป็นผู้ช่วยชีวิต
-
6:54 - 6:57พวกเขาจะช่วยเราตอนที่เราสาหัสแล้วได้
-
6:57 - 6:59และเรายังมีเพื่อนคนที่สอง
-
6:59 - 7:01คนที่ต่อแพ
-
7:01 - 7:03คนพวกนี้คือหมออายุกรรมทั่วไป
-
7:03 - 7:05คนที่จะช่วยเรารักษา
-
7:05 - 7:06จัดการโรคเรื้อรังต่างๆ
-
7:06 - 7:08พวกโรคเบาหวาน ความดัน
-
7:08 - 7:09ตรวจสุขภาพประจำปีให้คุณ
-
7:09 - 7:11ฉีดวัคซีนกันโรคประจำปีให้
-
7:11 - 7:13พวกเขาจะทำให้คุณอุ่นใจ
-
7:13 - 7:17ว่าคุณจะมีแพนั่งอย่างปลอดภัย
-
7:17 - 7:18แต่ก็ยังมีอีกคนที่สำคัญมากๆ
-
7:18 - 7:20นั่นคือเพื่อนคนที่มองย้อนขึ้นไปนั่นเอง
-
7:20 - 7:22พวกเขามีจำนวนไม่เพียงพอ
-
7:22 - 7:24พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ
-
7:24 - 7:26ที่รู้ว่าสุขภาพที่ดีนั้นเกิดขึ้นได้
-
7:26 - 7:28ณ ที่ๆเราอยู่อาศัย ทำงาน พักผ่อน
-
7:28 - 7:31แต่มากไปกว่านั้น
-
7:31 - 7:33เขายังจะสร้างระบบ
-
7:33 - 7:35ในคลินิก ในโรงพยาบาลของพวกเขา
-
7:35 - 7:38ระบบที่จะใช้วิธีการมองย้อนขึ้นไปดูต้นทาง
-
7:38 - 7:40ที่เชื่อมผู้คนเข้ากับสิ่งที่พวกเขาต้องการ
-
7:40 - 7:43ข้างนอกคลินิกนั่นอีกด้วย
-
7:43 - 7:45ตอนนี้คุณอาจจะสงสัย
อาจจะมีคำถาม -
7:45 - 7:47คำถามที่คนในวงการแพทย์จะถามว่า
-
7:47 - 7:50"หมอกับพยาบาลเนี่ยนะ
จะไปคิดถึงเรื่องขนส่งกับสภาพบ้าน" -
7:50 - 7:53เราแค่จ่ายยาและรักษาไปเท่านั้นนี่
-
7:53 - 7:54เราต้องทำสิ่งที่เราทำตอนนี้ให้ดีสิ
-
7:54 - 7:57แน่นอนครับ การช่วยผู้คนที่จมน้ำนั้น
-
7:57 - 8:00เป็นสิ่งที่สำคัญ
-
8:00 - 8:02หมอๆไม่ได้มีเวลาเหลือเฟือ
-
8:02 - 8:05แต่ผมขอแย้งว่า
ถ้าเราใช้เหตุผลนำแล้ว -
8:05 - 8:07เราจะพบว่าการมองย้อนต้นทาง
ไปหาสาเหตุเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ -
8:07 - 8:09นักวิทยาศาสตร์ทราบดีว่า
-
8:09 - 8:11สภาพความเป็นอยู่และการทำงาน
-
8:11 - 8:13ที่อยู่รอบตัวเรานั้น
-
8:13 - 8:15ส่งผลต่อสุขภาพของเรา
-
8:15 - 8:18มากกว่าพันธุกรรมถึงสองเท่า
-
8:18 - 8:19และสภาพความเป็นอยู่ การงาน
-
8:19 - 8:20สิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา
-
8:20 - 8:24สังคมรอบๆ ตัวเรา
-
8:24 - 8:26พฤติกรรมของเรา
ที่ได้รับผลกระทบจากสิ่งเหล่านี้ -
8:26 - 8:28ทั้งหมดนั้น มีผลต่อสุขภาพของเรา
มากกว่ายา -
8:28 - 8:29หรือการรักษาอื่นๆ
-
8:29 - 8:31จากแพทย์รวมถึงโรงพยาบาล
-
8:31 - 8:33ถึงห้าเท่าเลยทีเดียว
-
8:33 - 8:36ทั้งสภาพความเป็นอยู่และการทำงานนั้น
-
8:36 - 8:40ถือเป็น 60 % ในการป้องกันการเสียชีวิต
เลยทีเดียว -
8:40 - 8:42ผมจะลองยกตัวอย่างให้ฟังนะครับ
-
8:42 - 8:45ยังมีบริษัทหนึ่ง
เขาทำพวกคิดค้นสินค้าแนวคิดใหม่ๆ -
8:45 - 8:47เขามาหาคุณ แล้วบอกว่า
"เรามีสินค้ามาเสนอ -
8:47 - 8:49มันจะช่วยลดความเสี่ยง
ของการตายจากโรคหัวใจได้" -
8:49 - 8:51คุณคงอยากจะลงทุนกับสินค้าตัวนี้ล่ะสิ
-
8:51 - 8:54ถ้าสินค้านั้นเป็นยา หรือเครื่องมือ
-
8:54 - 8:57แต่ถ้าสินค้านั้นเป็นสวนสาธารณะล่ะ
-
8:57 - 8:59มีการศึกษาในอังกฤษ
-
8:59 - 9:01สำรวจตัวอย่างประชากร
-
9:01 - 9:04ผู้ที่อาศัยในอังกฤษกว่า 40 ล้านคน
-
9:04 - 9:06โดยสำรวจตัวแปรหลายๆตัว
-
9:06 - 9:09โดยควบคุมปัจจัยต่างๆอย่างเป็นระบบ
และพบว่า -
9:09 - 9:13ความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจนั้น
-
9:13 - 9:16แปรผันตามการที่ผู้คนได้มี
พื้นที่สีเขียว อย่างชัดเจน -
9:16 - 9:18ยิ่งคุณได้อยู่ใกล้พื้นที่สีเขียว
-
9:18 - 9:19ใกล้สวน ใกล้ต้นไม้
-
9:19 - 9:20คุณก็จะมีโอกาสเป็นโรคหัวใจต่ำลง
-
9:20 - 9:23ไม่ว่าคุณจะรวย หรือจนก็ตาม
-
9:23 - 9:26การศึกษานี้ทำให้ผมเข้าใจ
ที่อาสาสมัครสาธารณสุข -
9:26 - 9:27มักจะพูดว่า
-
9:27 - 9:29รหัสไปรษณีย์คุณน่ะ ส่งผลกับชีวิต
-
9:29 - 9:31มากกว่ารหัสพันธุกรรมเสียอีก
-
9:31 - 9:32เราได้รู้แล้วว่าที่ๆเราอาศัย
-
9:32 - 9:35ส่งผลต่อพันธุกรรมของเราจริงๆ
-
9:35 - 9:38เราต้องเข้าใจก่อนถึงอิพิเจเนติคส์
โดยต้องดูถึงกลไกระดับโมเลกุล -
9:38 - 9:41มันคือการทำให้พันธุกรรมของเรานั้น
-
9:41 - 9:42เปิด-ปิดสวิตช์การทำงาน
-
9:42 - 9:45โดยปัจจัยที่เป็นสวิตช์คือ
สิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา -
9:45 - 9:47ที่ๆเราอยู่อาศัย และทำงาน
-
9:47 - 9:49ดังนั้นก็เป็นที่แน่ชัดว่า
-
9:49 - 9:51สาเหตุต้นทางนั้น ส่งผลจริงๆ
-
9:51 - 9:53ต่อสุขภาพของเรา
-
9:53 - 9:56และหมอกับนักสาธารณสุขก็ควรจะ
ทำอะไรซักอย่างได้แล้ว -
9:56 - 9:57และ เวโรนิกาครับ เธอถามผม
-
9:57 - 9:58ด้วยคำถามที่ตอบยาก
-
9:58 - 10:00คำถามนึงเลยทีเดียว
-
10:00 - 10:02ตอนที่นัดตามอาการนั้น
เธอถามขึ้นว่า -
10:02 - 10:04"ทำไมที่ผ่านมานั้น
-
10:04 - 10:07คุณหมอไม่ได้ถามถึงบ้านฉันมาก่อนเลยคะ
-
10:07 - 10:09ตอนที่ฉันเข้าห้องฉุกเฉิน
-
10:09 - 10:11ฉันโดนสแกนสมอง
-
10:11 - 10:13ฉันโดนเจาะไขสันหลัง
-
10:13 - 10:14หมอเอาเข็มมาเจาะไขสันหลังฉัน
-
10:14 - 10:16ฉันยังเคยตรวจเลือดเป็นสิบครั้ง
-
10:16 - 10:18ฉันเข้ามาหาหมอตั้งหลายครั้ง
เจอคนในโรงพยาบาลตั้งมากมาย -
10:18 - 10:23แต่ไม่มีใครถามเกี่ยวกับบ้านฉันเลย"
-
10:23 - 10:25ผมตอบไปอย่างสุภาพว่า
ในระบบสาธารณสุข -
10:25 - 10:26เรามักจะรักษาอาการ
-
10:26 - 10:29โดยที่ไม่ได้ถามถีงว่าอะไร
เป็นสาเหตุทำให้คุณป่วยในตอนแรก -
10:29 - 10:31และเหตุผลใหญ่ๆสามประการ
นั่นคือ -
10:31 - 10:36หนึ่ง เราไม่ได้ถูกจ้างมาให้ทำงานแบบนั้น
-
10:36 - 10:39เราทำงานแบบเน้นปริมาณ ไม่ใช่คุณภาพ
-
10:39 - 10:41เรามักจะจ่ายให้หมอและโรงพยาบาล
-
10:41 - 10:43ตามจำนวนของการบริการที่เขาทำให้
-
10:43 - 10:46ไม่ได้ตามสุขภาพที่ดีขึ้นของคุณ
-
10:46 - 10:49นั่นทำให้ไปสู่ข้อสอง ที่ผมเรียกว่า
-
10:49 - 10:50วิธีการแบบ "ห้ามถาม ห้ามพูด"
-
10:50 - 10:52เกี่ยวกับสาเหตุต้นทางในการดูแลสุขภาพของคุณ
-
10:52 - 10:54เราไม่ถามเกี่ยวกับว่า
คุณอาศัย ที่ไหน -
10:54 - 10:55เพราะถ้ามันมีปัญหาที่นั่น
-
10:55 - 10:58เราก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับคุณเหมือนกัน
-
10:58 - 11:01ไม่ใช่ว่าหมอๆไม่ทราบเกี่ยวกับ
เรื่องสำคัญนี้หรอกนะครับ -
11:01 - 11:03ในการสำรวจที่ทำกับหมอ
ในสหรัฐอเมริกา -
11:03 - 11:05มากกว่า 1,000 คน
-
11:05 - 11:0780 % นั้นก็ทราบดีว่า
-
11:07 - 11:08เขารู้ว่าสาเหตุต้นทางของปัญหานั้น
-
11:08 - 11:10เป็นส่วนสำคัญต่อสุขภาพ
-
11:10 - 11:12ต่ออาการป่วยต่างๆ
-
11:12 - 11:14แต่แม้ว่าเหล่าหมอๆจะตระหนักดี
-
11:14 - 11:16เกี่ยวกับสาเหตุต้นทางเหล่านี้
-
11:16 - 11:19มีแค่หนึ่งในห้าที่บอกว่า
-
11:19 - 11:21เขามั่นใจว่าการที่ระบุสาเหตุได้นั้น
-
11:21 - 11:23จะพัฒนาสุขภาพได้ตั้งแต่เริ่มแรกเลย
-
11:23 - 11:25แสดงว่ายังมีช่องว่าระหว่างการที่
-
11:25 - 11:27รู้ว่าชีวิตของผู้ป่วย,
และสิ่งแวดล้อมนั้นสำคัญ -
11:27 - 11:30กับการที่จะทำอะไรซักอย่างกับมันได้
-
11:30 - 11:32ในระบบที่เรา(หมอ)ทำงานอยู่
-
11:32 - 11:34นี่เป็นปัญหาใหญ่อยู่ในขณะนี้ครับ
-
11:34 - 11:36เพราะว่านี่จะทำให้เกิดคำถามต่อไป นั่นคือ
-
11:36 - 11:38ใครจะเป็นคนไปทำล่ะ
-
11:38 - 11:40นั่นคือข้อที่สามที่ผมพูดถึงนั่นเอง
-
11:40 - 11:43ที่จะตอบคำถามยากๆนี้ของเวโรนิกา
-
11:43 - 11:44ที่เรามีปัญหานี้นั้น
-
11:44 - 11:48ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราไม่มีคนที่จะมองย้อน
ไปต้นทางของปัญหามากพอ -
11:48 - 11:50ในระบบสาธารณสุขของเรา
-
11:50 - 11:52เราไม่มีเพื่อนคนที่สาม
-
11:52 - 11:54คนที่จะคอยมองหาสาเหตุ
-
11:54 - 11:57ว่าใครหรืออะไรมันคอยโยนเด็กลงมาในแม่น้ำกันแน่
-
11:57 - 11:59ทุกวันนี้เรามีคนทำหน้าที่นี้เยอะ
-
11:59 - 12:01และผมมีโอกาสที่จะได้พบกับพวกเขาเหล่านี้
-
12:01 - 12:04ในลอส แอนเจลิส และในอีกหลายๆที่ในสหรัฐ
-
12:04 - 12:05และรอบโลก
-
12:05 - 12:08และต้องไม่ลืมนะครับ ว่าคนพวกนี้
-
12:08 - 12:10บางครั้งก็เป็นหมอ แต่ก็ไม่เสมอไป
-
12:10 - 12:13พวกเขาอาจเป็นพยาบาลหรือผู้ช่วยอื่นๆ
-
12:13 - 12:15นักสังคมสงเคราะห์ ก็ได้
-
12:15 - 12:16เรื่องวุฒิปริญญานั้นไม่สำคัญหรอกครับ
-
12:16 - 12:18ว่าบุคลากรเหล่านี้จะจบอะไรมา
-
12:18 - 12:20ที่สำคัญกว่าคือ พวกเขานั้น
-
12:20 - 12:24จะต้องทำงานร่วมกัน
-
12:24 - 12:26เพื่อเปลี่ยนแปลงวิธีการช่วยเหลือผู้คน
-
12:26 - 12:29เปลี่ยนแปลงวิธีการรักษาคนไข้
-
12:29 - 12:30ขั้นตอนนี่ค่อนข้างง่ายเลยทีเดียว
-
12:30 - 12:33ก็แค่สามขั้นตอนครับ
-
12:33 - 12:34หนึ่ง ทุกคนต้องนั่งลงพูดคุยกัน
-
12:34 - 12:36หาว่าปัญหาของกลุ่มผู้ป่วยที่พบนั้น
-
12:36 - 12:38มีอาการอะไรบ้าง
-
12:38 - 12:39ยกตัวอย่างนะครับ เช่น
-
12:39 - 12:41เรามาช่วยกันช่วยเด็กๆ
-
12:41 - 12:43ที่เข้าออกโรงพยาบาลบ่อยๆ
-
12:43 - 12:45ด้วยอาการหอบหืดกัน
-
12:45 - 12:48หลับจากรู้ว่าปัญหาคืออะไร
เราก็ไปสู่ขั้นที่สองครับ -
12:48 - 12:50นั่นคือการหารากที่มาของปัญหา
-
12:50 - 12:54และการวิเคราะห์สาเหตุนี้
เดิมทีทางการแพทย์ -
12:54 - 12:56เรามักกล่าวว่า ให้ไปดูพันธุกรรม
-
12:56 - 12:58ดูพฤติกรรมต่างๆ ของคุณ
-
12:58 - 13:00บางทีคุณอาจจะกินอะไรไม่ดีต่อสุขภาพนะ
-
13:00 - 13:01กินให้ดีขึ้นหน่อย
-
13:01 - 13:03พูดเรื่องง่ายๆ
-
13:03 - 13:04กับการวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา
-
13:04 - 13:06และผมพบว่ามันแทบจะไม่ได้ผลเลย
-
13:06 - 13:08ถ้าเรายังมองภาพแคบๆแบบนี้อยู่ครับ
-
13:08 - 13:10การวิเคราะห์สาเหตุที่ผู้มองไปยังต้นทาง
-
13:10 - 13:12จะทำคือ ต้องไปดูถึงชีวิต
ของผู้ป่วย -
13:12 - 13:16สภาพที่อาศัย ที่ทำงาน
-
13:16 - 13:18บางทีเด็กๆที่เป็นหอบหืด
-
13:18 - 13:19นั่นเพราะมีสาเหตุจาก
ในบ้านเด็กเอง -
13:19 - 13:22หรืออยู่ไม่ห่างจากทางหลวง
ที่มีมลพิษสูง -
13:22 - 13:24ที่ทำให้เกิดหอบหืดได้
-
13:24 - 13:27และบางทีเราควรจริงจังกับปัญหานี้ครับ
-
13:27 - 13:29เพราะส่วนที่สามที่ผมจะกล่าวนั้น
-
13:29 - 13:32คือส่วนที่สำคัญที่สุด
ที่คนที่มองไปยังสาเหตุจะทำครับ -
13:32 - 13:34พวกเขาจะทุ่มเทในการหาทางแก้ปัญหา
-
13:34 - 13:36ทั้งในด้านระบบคลินิก
-
13:36 - 13:38และจากนั้นเอาคนจากสาธารณสุข
-
13:38 - 13:39จากหลายภาคส่วน
อาทิ ทนาย -
13:39 - 13:41หรือใครก็ได้ที่จะช่วยเราได้
-
13:41 - 13:43มาร่วมกันหาวิธีแก้ปัญหาที่เป็นไปได้
-
13:43 - 13:46ให้กับผู้ป่วยที่กำลังป่วยอยู่เหล่านั้น
-
13:46 - 13:48ให้เห็นถึงรากของปัญหานั้นด้วยกัน
-
13:48 - 13:51โดยถามพวกเขาถึงสิ่งที่อาจจะเป็นปัญหาได้
-
13:51 - 13:53มีหลายครั้งเลยที่ผมแน่ใจ
-
13:53 - 13:55ว่าคนที่มองย้อนไปที่รากของปัญหา
นั้นแก้ปัญหาได้จริง -
13:55 - 13:58แต่ปัญหาก็คือคนที่มองย้อนหา
รากของปัญหานี้ มีจำนวนไม่พอ -
13:58 - 14:00มีการคาดการณ์ว่า เราต้องมีคนพวกนี้
-
14:00 - 14:03หนึ่งคนต่อ หมอ 20-30 คน
-
14:03 - 14:05ถ้าเป็นในสหรัฐฯ นั่นคือ
-
14:05 - 14:07เราต้องมีผู้ที่จะหาที่มาของโรคนี้
25,000 คน -
14:07 - 14:10ภายในปี 2020
-
14:10 - 14:14แต่ตอนนี้เรามีคนพวกนี้แค่ไม่กี่พันคน
เท่าที่เราทราบ -
14:14 - 14:17และนั่นเป็นสาเหตุว่าไม่กี่ปีก่อนนี้
ผมและทีมงาน -
14:17 - 14:19มักจะบอกว่าคุณรู้ไหม
เราต้องสร้างคนพวกนี้ -
14:19 - 14:21สร้างคนที่มองรากของปัญหาโรค
ให้มากกว่านี้ -
14:21 - 14:22ดังนั้นเราจึงตั้งองค์กรขึ้นมา
-
14:22 - 14:25ชื่อว่า เฮลท์ บีกินส์
(สุขภาพดี เริ่มที่นี่) -
14:25 - 14:26และสิ่งที่ เฮลท์ บีกินส์ ทำก็คือ
-
14:26 - 14:27เราฝึกคนพวกนี้ขึ้นมา
-
14:27 - 14:29และมีหลายปัจจัย
ที่ใช้วัดความสำเร็จของเรา -
14:29 - 14:31แต่ปัจจัยหลักที่เราสนใจคือ
-
14:31 - 14:33การที่เราจะมั่นใจได้ว่าเราจะเปลี่ยน
-
14:33 - 14:34ความคิดของเหล่าหมอที่ฝังหัวอยู่
-
14:34 - 14:36ว่า "อย่าถาม อย่าบอก" กับคนไข้
-
14:36 - 14:38เราพยายามที่จะให้หมอเหล่านี้
-
14:38 - 14:40รวมถึงระบบสาธารณสุขที่พวกเขาทำงานอยู่
-
14:40 - 14:43มีความสามารถ และความมั่นใจ
-
14:43 - 14:45ที่จะระบุปัญหาไปถึงการใช้ชีวิต
-
14:45 - 14:48ไปถึงในที่ทำงานของพวกเราได้
-
14:48 - 14:50เราเริ่มเห็นตัวอย่าง
-
14:50 - 14:52ของการหาที่มาของโรคแบบนี้บ้างแล้ว
-
14:52 - 14:53มันช่วยเราได้มาก
-
14:53 - 14:55สิ่งที่น่าสนใจของ
ของวิธีนี้นะ -
14:55 - 14:57คือการที่ได้ทำงาน
-
14:57 - 15:01กับผู้ค้นหารากของโรค
ในการรวมพวกเขาไว้ด้วยกัน -
15:01 - 15:03ที่สำคัญที่สุดเลยคือ ในทุกๆวัน
-
15:03 - 15:07ทุกๆสัปดาห์ ผมได้รับรู้เรื่อง
ที่เหมือนกับเรื่องของเวโรนิกา -
15:07 - 15:10มีผู้คนอีกมากที่เหมือนเวโรนิกา
-
15:10 - 15:12มีเรื่องราวที่คล้ายกัน
-
15:12 - 15:13คนที่เขามาสู่ระบบสาธารณสุข
-
15:13 - 15:15และได้รับรู้ว่ามันเป็นอย่างไร
-
15:15 - 15:17เขามาเป็นส่วนหนึ่งของระบบนี้
-
15:17 - 15:20ระบบสุขภาพที่จะหยุดการ
เข้าๆออกๆโรงพยาบาล -
15:20 - 15:22ระบบที่จะพัฒนาสุขภาพของคุณ
-
15:22 - 15:23รับฟังว่าคุณคือใคร
-
15:23 - 15:25หาว่าคุณมีความเป็นอยู่อย่างไร
-
15:25 - 15:29ไม่ว่าคุณจะรวย จน หรือเป็นชนชั้นกลาง
-
15:29 - 15:31เรื่องราวเหล่านี้
มันน่าสนใจก็เพราะว่า -
15:31 - 15:33ไม่ใช้แค่ผู้ป่วยบอกเราว่า
-
15:33 - 15:36เราใกล้จะได้ระบบสาธารณสุข
ที่เราต้องการแล้ว -
15:36 - 15:38แต่มันยังมีบางอย่าง
ที่เราทุกคนช่วยกันให้ไปสู่จุดหมายได้ -
15:38 - 15:40แพทย์และพยาบาลสามารถช่วยได้
ในการซักประวัติ -
15:40 - 15:42เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน
ของคนไข้ -
15:42 - 15:45ไม่ใช่แค่เป็นส่วนหนึ่งของ
มารยาทในการเข้าหาคนไข้ -
15:45 - 15:48แต่มันช่วยให้เราดูแลพวกเขา
ได้ดีขึ้นได้จริงๆ -
15:48 - 15:49ระบบสาธารณสุขและรัฐบาล
-
15:51 - 15:53สามารถเริ่มให้เหล่าองค์กร
สาธารณสุข -
15:53 - 15:54เข้ามาร่วมกัน
และบอกกับเขาว่า -
15:54 - 15:56เรามาดูข้อมูลคนไข้นี้ด้วยกันเถอะ
-
15:56 - 15:59มาดูว่าเราสามารถค้นพบ
รูปแบบอะไรได้ในข้อมูลของชีวิตคนไข้ -
15:59 - 16:02ที่มันจะทำให้เห็นรากของปัญหานี้ได้ไหม
-
16:02 - 16:04และที่สำคัญต่อมาเลย
คือเราจะจัดการทรัพยากร -
16:04 - 16:07ที่เรามีไปช่วยเขาได้ไหม
-
16:07 - 16:08โรงเรียนแพทย์และพยาบาล
-
16:08 - 16:10ที่ให้การศึกษาของเหล่า
บุคลากรสาธารณสุขเหล่านี้ -
16:10 - 16:14สามารถช่วยในการสร้าง
ผู้มองรากของโรครุ่นใหม่ๆออกมาได้ -
16:14 - 16:16เราต้องมั่นใจว่าโรงเรียนเหล่านี้
-
16:16 - 16:19จะสอนในเรื่องการหารากของโรค
เป็นหลักในการเข้าหาสาเหตุโรค -
16:19 - 16:21และนั่นคืออาสาสมัครสาธารณสุขชุมชนนั่นเอง
-
16:21 - 16:23เราต้องการคนพวกนี้เยอะๆในระบบ
-
16:23 - 16:25ถ้าเราอยากให้ระบบนี้ใช้งานได้ดีจริงๆ
-
16:25 - 16:27ให้เปลี่ยนจากการดูแลการเจ็บป่วย
-
16:27 - 16:28เป็นการดูแลสุขภาพในที่สุด
-
16:28 - 16:30แต่สุดท้ายนี้
และก็เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด -
16:30 - 16:33คือ "เราจะทำอะไร"
"เราทำอะไรในฐานะผู้ป่วยล่ะ" -
16:33 - 16:35เราเริ่มได้ง่ายๆโดยไปหาหมอ
-
16:35 - 16:37หาพยาบาล ที่คลินิกใกล้ๆ
-
16:37 - 16:39แล้วถามพวกเขาว่า "มีอะไรในที่ๆฉันอยู่
-
16:39 - 16:41ที่ๆฉันทำงาน ที่ฉันควรต้องระวังไหม"
-
16:41 - 16:44"มีปัจจัยเสี่ยงอะไรที่ฉันไม่ทันได้ระวังไหม
-
16:44 - 16:46และที่สำคัญคือ ถ้ามี
-
16:46 - 16:48และฉันกำลังได้รับมันอยู่ ถ้าฉันมาหาหมอ
-
16:48 - 16:50และฉันก็พูดว่า ฉันคิดว่าฉันมีปัญหากับ
-
16:50 - 16:53อพาร์ตเมนต์ฉัน หรือที่ทำงาน
-
16:53 - 16:55หรือฉันไม่สามารถเข้าถึงระบบขนส่งที่ดี
-
16:55 - 16:56หรือสวนสาธารณะมันอยู่ไกล
-
16:56 - 16:58ฉันขอโทษด้วยนะหมอ
ฉันคงทำตามที่หมอแนะไม่ได้ -
16:58 - 17:00ที่จะให้ไปวิ่งเหยาะๆ
-
17:00 - 17:02ถ้าปัญหามันยังอยู่
-
17:02 - 17:05ถ้างั้นคุณหมอพร้อมจะรับฟังฉันไหม
-
17:05 - 17:07และอะไรที่เรา
สามารถร่วมกัน -
17:07 - 17:09ทำให้สุขภาพของฉันดีขึ้น
ตั้งแต่ต้นตอสาเหตุมาเลย -
17:09 - 17:12ถ้าเราทุกคนสามารถทำแบบนี้ได้
-
17:12 - 17:13หมอและระบบสาธารณสุข
-
17:13 - 17:15รัฐบาล และพวกเราทุกคน
-
17:15 - 17:18เราจะตระหนักถึงสุขภาพของเราได้อย่างแท้จริง
-
17:18 - 17:21สุขภาพนั้นไม่ใช่แค่
ความรับผิดชอบส่วนตัว -
17:21 - 17:25แต่เป็นเรื่องของสังคมและทุกคนร่วมกัน
-
17:25 - 17:27มันมาจากการที่เรา
รู้ว่า -
17:27 - 17:29ชีวิตของเราทุกคนนั้นมีค่า
-
17:29 - 17:31ตั้งแต่ในบริบทที่เราอาศัย
และในที่ๆเราทำงาน -
17:31 - 17:33กิน นอน ใช้ชีวิต
-
17:33 - 17:34และนั่นคือสิ่งที่เราทำเพื่อตัวของพวกเรา
-
17:34 - 17:36เราควรจะทำเพื่อคนอื่นๆด้วย
-
17:36 - 17:38คนที่อาศัยและทำงานใน
-
17:38 - 17:41ที่ๆไม่เหมาะสม
-
17:41 - 17:44เราสามารถช่วยได้โดยการพัฒนา
-
17:44 - 17:46ต้นตอสาเหตุของโรค
-
17:46 - 17:48แต่ในขณะเดียวกันก็ร่วมกัน
-
17:48 - 17:51และแสดงให้เห็นว่าเราสามารถเปลี่ยนแปลง
-
17:51 - 17:53ระบบนี้ตั้งแต่ต้นทางได้
-
17:53 - 17:56เราสามารถพัฒนาสุขภาพได้ตั้งแต่ต้นทางครับ
-
17:56 - 17:58ขอบคุณครับ
-
17:58 - 18:00(เสียงปรบมือ)
- Title:
- อะไรที่ทำให้เราป่วย ลองมองย้อนไปต้นทางดูสิ
- Speaker:
- ริชี่ มันจันดา (Rishi Manchanda)
- Description:
-
ริชี่ มันจันดา เป็นหมอที่ทำงานคลินิกที่เซาท์เซนทรัลลอสแอนเจลิสมานับสิบปี ที่นั่นทำให้เขาตระหนักว่างานของเขาไม่ใช่แค่รักษาอาการของผู้ป่วย แต่ยังต้องรักษาถึงสาเหตุว่าอะไรทำให้ผู้คนเหล่านั้นป่วย นั่นคือปัจจัย"ต้นทาง" เช่น การกินอาหารที่ไม่ถูกต้อง ความเครียดจากการทำงาน อากาศที่เป็นมลพิษ เขาพยายามให้หมอในชุมชนใส่ใจกับชีวิตของผู้ป่วยนอกห้องตรวจบ้าง
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 18:13
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for What makes us get sick? Look upstream | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for What makes us get sick? Look upstream | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for What makes us get sick? Look upstream | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for What makes us get sick? Look upstream | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut accepted Thai subtitles for What makes us get sick? Look upstream | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for What makes us get sick? Look upstream | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for What makes us get sick? Look upstream | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for What makes us get sick? Look upstream |