WEBVTT 00:00:00.440 --> 00:00:05.096 ในปัจจุบัน คำว่าการกระทบกระแทกสมอง ก่อให้เกิดความน่ากลัวมากยิ่งกว่าแต่ก่อน 00:00:05.120 --> 00:00:07.496 และผมก็รู้จากประสบการณ์โดยตรง 00:00:07.520 --> 00:00:10.176 ผมเล่นอเมริกันฟุตบอลมา 10 ปี 00:00:10.200 --> 00:00:12.616 ถูกอัดที่หัวมาเป็นพัน ๆ ครั้ง 00:00:12.640 --> 00:00:16.296 และผมต้องบอกคุณว่า สิ่งที่แย่ยิ่งกว่านั้น 00:00:16.320 --> 00:00:21.096 คืออุบัติเหตุจากรถจักรยานสองครั้ง ที่ทำให้สมองของผมได้รับการกระแทก 00:00:21.120 --> 00:00:24.056 และผมก็ยังได้รับผลกระทบ จากอุบัติเหตุครั้งล่าสุดอยู่ 00:00:24.080 --> 00:00:25.840 ในวันนี้ ณ ตอนนี้ NOTE Paragraph 00:00:27.640 --> 00:00:30.096 เราหวาดกลัวต่อการกระทบกระแทกสมอง 00:00:30.120 --> 00:00:32.080 ที่ไม่มีหลักฐานมาสนับสนุน 00:00:33.600 --> 00:00:36.936 มีข้อมูลที่แสดงว่า ประวัติการกระทบกระแทกซ้ำ ๆ 00:00:36.960 --> 00:00:40.256 สามารถนำไปสู่ภาวะสมองเสื่อม ดังเช่น โรคอัลไซเมอร์ 00:00:40.280 --> 00:00:42.336 และอาการทางสมองบาดเจ็บเรื้อรัง 00:00:42.360 --> 00:00:45.400 นั่นเป็นประเด็นในภาพยนตร์ของวิล สมิท เรื่อง "Concussion" 00:00:46.560 --> 00:00:50.136 ฉะนั้น ทุกคนก็เลยคิดภาพแต่ในกรอบ เรื่องอเมริกันฟุตบอลและสิ่งที่เห็นในกองทัพ 00:00:50.160 --> 00:00:51.496 แต่คุณอาจไม่รู้ว่า 00:00:51.520 --> 00:00:55.816 การขี่รถจักรยานเป็นสาเหตุหลักของ การกระทบกระแทกสมองในเด็ก 00:00:55.840 --> 00:00:57.507 มันเป็นกีฬาที่เกี่ยวข้องกับ การกระทบกระแทกสมอง 00:00:59.040 --> 00:01:01.616 และอีกอย่างหนึ่งที่ผมควรจะบอกคุณ 00:01:01.640 --> 00:01:02.856 ที่คุณอาจไม่รู้ 00:01:02.880 --> 00:01:05.816 ก็คือหมวกกันน๊อคที่ใส่กันตอนขี่รถจักรยาน และตอนเล่นอเมริกันฟุตบอล 00:01:05.840 --> 00:01:07.496 และในอีกหลาย ๆ กิจกรรมนั้น 00:01:07.520 --> 00:01:10.096 ไม่ได้ถูกออกแบบหรือถูกทดสอบมา 00:01:10.120 --> 00:01:13.600 ว่าพวกมันป้องกันการกระทบกระแทกสมอง ของลูก ๆ ของคุณได้ดีแค่ไหน 00:01:14.200 --> 00:01:15.936 อันที่จริงแล้ว พวกมันถูกออกแบบและทดสอบ 00:01:15.960 --> 00:01:18.640 ในเรื่องของความสามารถในการป้องกัน หัวกระโหลกแตกร้าว NOTE Paragraph 00:01:19.840 --> 00:01:25.456 และผมก็ได้รับคำถามนี้จากพ่อแม่เสมอ ๆ 00:01:25.480 --> 00:01:27.056 พวกเขาถามผมว่า 00:01:27.080 --> 00:01:29.376 "คุณจะอนุญาตให้ลูกของคุณ เล่นอเมริกันฟุตบอลหรือเปล่า" 00:01:29.400 --> 00:01:32.576 หรือ "ฉันควรอนุญาตให้ลูกของฉัน เล่นอเมริกันฟุตบอลหรือเปล่า" 00:01:32.600 --> 00:01:35.496 และในฐานะคนในวงการ ผมคิดว่า 00:01:35.520 --> 00:01:39.920 เรายังให้คำตอบอย่างมั่นใจไม่ได้เลย NOTE Paragraph 00:01:41.440 --> 00:01:45.016 ฉะนั้น ผมพิจารณาคำถามนั่น จากมุมมองที่แตกต่างออกไป 00:01:45.040 --> 00:01:48.776 และผมก็อยากจะรู้ว่าเราจะป้องกัน การกระทบกระแทกสมองได้อย่างไร 00:01:48.800 --> 00:01:50.456 นั่นมันเป็นไปได้หรือเปล่า 00:01:50.480 --> 00:01:53.040 และผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คิดว่า มันเป็นไปไม่ได้ 00:01:54.520 --> 00:01:56.736 แต่สิ่งที่เรากำลังศึกษากันอยู่ ในห้องทดลองของผม 00:01:56.760 --> 00:02:01.136 กำลังเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับการกระทบกระแทกสมอง 00:02:01.160 --> 00:02:03.936 ซึ่งจะทำให้เรามีความเข้าใจที่ดีขึ้น 00:02:03.960 --> 00:02:06.816 เหตุผลที่เราสามารถป้องกันกระโหลกร้าว ได้ด้วยหมวกกันน๊อค 00:02:06.840 --> 00:02:09.295 ก็เพราะว่ามันค่อนข้างง่าย เรารู้ว่ากลไกของมันเป็นอย่างไร 00:02:09.320 --> 00:02:11.360 การกระทบกระแทกสมอง ยังเป็นปริศนาที่เราไม่เข้าใจ NOTE Paragraph 00:02:12.280 --> 00:02:16.040 ฉะนั้น เพื่อให้คุณพอเห็นภาพว่า การกระทบกระแทกสมองเป็นอย่างไร 00:02:17.240 --> 00:02:19.176 ผมอยากให้คุณชมวีดีโอนี้ 00:02:19.200 --> 00:02:21.736 ที่คุณจะพบมันได้ เมื่อทำการค้นหาผ่านกูเกิล 00:02:21.760 --> 00:02:23.176 "การกระทบกระแทกสมองคืออะไร" 00:02:23.200 --> 00:02:24.856 เว็บไซต์ของซีดีซี (CDC) ปรากฏขึ้นมา 00:02:24.880 --> 00:02:28.336 และวีดีโอนี้บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด 00:02:28.360 --> 00:02:30.776 สิ่งที่คุณเห็นคือศีรษะที่เคลื่อนไปข้างหน้า 00:02:30.800 --> 00:02:32.856 สมองที่ยังอยู่ในส่วนด้านหลัง 00:02:32.880 --> 00:02:34.296 และจากนั้นสมองก็ค่อยเคลื่อนตามมา 00:02:34.320 --> 00:02:36.576 และกระแทกเข้ากับกระโหลก 00:02:36.600 --> 00:02:38.776 มันเด้งกลับออกจากกระโหลก 00:02:38.800 --> 00:02:42.560 และจากนั้นก็เคลื่อนไปยังอีกด้านหนึ่ง ของกระโหลก 00:02:43.320 --> 00:02:46.936 และสิ่งที่คุณจะสังเกตก็คือสิ่งที่ถูกเน้นไว้ ในวีดีโอจากซีดีซีนี้ 00:02:46.960 --> 00:02:49.416 ซึ่งผมจะขอย้ำว่างานนี้ ได้รับเงินสนับสนุนจาก NFL 00:02:49.440 --> 00:02:52.376 ก็คือส่วนผิวนอกของสมอง 00:02:52.400 --> 00:02:55.696 ที่ซึ่งกระแทกเข้ากับกระโหลก 00:02:55.720 --> 00:02:59.656 ดูเหมือนว่ามันได้รับบาดเจ็บหรือเสียหาย ฉะนั้นมันก็คือผิวส่วนนอกของสมอง 00:02:59.680 --> 00:03:01.656 และที่ผมอยากจะทำสำหรับวีดีโอนี้ก็คือ 00:03:01.680 --> 00:03:05.376 บอกกับคุณว่ามันมีบางแง่มุม ที่อาจเป็นความจริง 00:03:05.400 --> 00:03:08.416 ที่บ่งบอกว่านักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทบกระแทก 00:03:08.440 --> 00:03:11.056 แต่มันอาจยังมีส่วนที่ผิดอยู่หลายจุด ในวีดีโอนี้ NOTE Paragraph 00:03:11.080 --> 00:03:14.336 สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นด้วย และผมก็คิดว่า ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย 00:03:14.360 --> 00:03:16.376 ก็คือสมองมีการเคลื่อนไหวแบบนี้ 00:03:16.400 --> 00:03:18.776 มันอยู่ในส่วนด้านหลังของกระโหลก 00:03:18.800 --> 00:03:21.456 และจากนั้นเคลื่อนตามมา เคลื่อนไปข้างหน้าและหลัง และแกว่ง 00:03:21.480 --> 00:03:22.720 นั่นเป็นสิ่งที่เราคิดว่าเกิดขึ้นจริง 00:03:23.760 --> 00:03:27.056 อย่างไรก็ดี ระดับการเคลื่อนที่ ที่คุณได้เห็นในวีดีโอนี้ 00:03:27.080 --> 00:03:28.656 บางที อาจจะไม่ถูกต้องทั้งหมด 00:03:28.680 --> 00:03:32.096 ในส่วนโค้งโพรงกระโหลก มีพื้นที่อยู่น้อยมาก 00:03:32.120 --> 00:03:33.816 มีเพียงไม่กี่มิลลิเมตรเท่านั้นเอง 00:03:33.840 --> 00:03:37.016 และมันก็เต็มไปด้วยน้ำในสมอง 00:03:37.040 --> 00:03:39.216 ซึ่งทำหน้าที่เป็นชั้นป้องกัน 00:03:39.240 --> 00:03:43.400 และสมองทั้งหมดก็อาจเคลื่อนที่น้อยมาก ภายในกระโหลก NOTE Paragraph 00:03:44.520 --> 00:03:46.576 อีกปัญหาหนึ่งเกี่ยวกับวีดีโอนี้ 00:03:46.600 --> 00:03:48.336 ก็คือสมองที่เราเห็น 00:03:48.360 --> 00:03:51.456 ถูกแสดงในลักษณะก้อนของแข็ง ที่เคลื่อนไปรอบ ๆ 00:03:51.480 --> 00:03:52.880 และนั่นก็ไม่ใช่ความจริงเช่นกัน 00:03:53.720 --> 00:03:57.136 สมองของคุณเป็นส่วนที่นุ่มที่สุดส่วนหนึ่ง ของร่างกาย 00:03:57.160 --> 00:03:59.176 และคุณอาจคิดว่ามันเหมือนกับเยลลี่ 00:03:59.200 --> 00:04:01.336 ฉะนั้น เมื่อศีรษะของคุณ เคลื่อนไปข้างหน้าและหลัง 00:04:01.360 --> 00:04:04.216 สมองของคุณจะหมุนและบิดไปมา 00:04:04.240 --> 00:04:06.456 และเนื้อเยื่อก็จะถูกยืด 00:04:06.480 --> 00:04:09.496 และผมก็คิดว่าผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ ก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้ 00:04:09.520 --> 00:04:12.656 การกระทบกระแทกนั้นไม่น่าจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้น 00:04:12.680 --> 00:04:14.496 บนผิวนอกของสมอง 00:04:14.520 --> 00:04:16.616 แต่เกิดกับส่วนที่ลึกมากกว่านั้น 00:04:16.640 --> 00:04:18.200 ลงไปตามแกนกลางของสมอง NOTE Paragraph 00:04:19.279 --> 00:04:21.856 ทีนี้ วิธีการที่เรากำลังจัดการกับปัญหานี้ก็คือ 00:04:21.880 --> 00:04:24.216 พยายามทำความเข้าใจ กลไกของการกระทบกระแทก 00:04:24.240 --> 00:04:26.096 และพยายามเข้าใจว่าเราจะป้องกันมันได้อย่างไร 00:04:26.120 --> 00:04:28.936 โดยใช้อุปกรณ์ที่มีหน้าตาแบบนี้ 00:04:28.960 --> 00:04:30.160 มันคือฟันยาง 00:04:30.960 --> 00:04:33.856 มันมีตัวตรวจจับอยู่ภายใน ที่เหมือนกันกับตัวตรวจจับ 00:04:33.880 --> 00:04:35.216 ที่มีอยู่ในโทรศัพท์มือถือของคุณ ซึ่งได้แก่ 00:04:35.240 --> 00:04:37.576 ตัววัดความเร่ง ไจโรสโคป 00:04:37.600 --> 00:04:39.496 และเมื่อใครก็ตามได้รับการปะทะเข้าที่ศีรษะ 00:04:39.520 --> 00:04:42.056 มันจะบอกคุณว่าศีรษะของเขาเคลื่อนไปอย่างไร 00:04:42.080 --> 00:04:45.200 โดยบันทึกไว้ที่อัตราพันตัวอย่างต่อวินาที 00:04:46.760 --> 00:04:49.456 หลักการเบื้องหลังฟันยางก็คือ 00:04:49.480 --> 00:04:50.736 มันพอดีกับฟันของคุณ 00:04:50.760 --> 00:04:53.816 ฟันของคุณเป็นส่วนหนึ่งที่แข็งที่สุด ในร่างกาย 00:04:53.840 --> 00:04:55.896 ฉะนั้น มันถูกฝังอยู่แน่นในกระโหลกของคุณ 00:04:55.920 --> 00:04:58.336 และให้การวัดที่แม่นยำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ 00:04:58.360 --> 00:05:00.296 ว่ากระโหลกเคลื่อนที่อย่างไร 00:05:00.320 --> 00:05:02.856 ผู้คนได้พยายามวิธีการอื่น ๆ ด้วยหมวกกันน๊อค 00:05:02.880 --> 00:05:06.256 เราได้ใช้ตัวตรวจวัดอย่างอื่น ที่ติดไว้ที่ผิวหนัง 00:05:06.280 --> 00:05:08.896 และพวกมันก็เคลื่อนที่มากเกินไป 00:05:08.920 --> 00:05:11.616 และเราก็พบว่านี่เป็นเพียงวิธีการเดียว ที่เชื่อถือได้ 00:05:11.640 --> 00:05:13.000 ที่จะวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ NOTE Paragraph 00:05:15.400 --> 00:05:19.696 ฉะนั้นตอนนี้ เรามีอุปกรณ์นี้แล้ว เราสามารถทำได้มากกว่าการศึกษาศพ 00:05:19.720 --> 00:05:22.136 เพราะว่าคุณสามารถเรียนรู้อะไรมากมาย เกี่ยวกับการกระทบกระแทก 00:05:22.160 --> 00:05:23.376 จากการศึกษาศพ 00:05:23.400 --> 00:05:26.176 และเราต้องการที่จะเรียนรู้และศึกษา คนที่มีชีวิตอยู่เช่นกัน 00:05:26.200 --> 00:05:30.096 ฉะนั้น สถานที่ใดบ้างที่เราจะสามารถ หากลุ่มของอาสาสมัตรได้ 00:05:30.120 --> 00:05:34.376 เพื่อที่จะให้พวกเขาเอาศีรษะไปกระแทกกัน ได้บ่อยครั้ง 00:05:34.400 --> 00:05:35.616 และมีการกระทบกระแทกเสมอ ๆ 00:05:35.640 --> 00:05:37.536 ครับ ผมเป็นหนึ่งในพวกนั้น 00:05:37.560 --> 00:05:40.360 และมันก็คือทีมอเมริกันฟุตบอลสแตนฟอร์ด ที่แสนจะเป็นมิตร NOTE Paragraph 00:05:41.640 --> 00:05:43.256 ฉะนั้น นี่แหละครับห้องทดลองของเรา 00:05:43.280 --> 00:05:44.976 และผมอยากที่จะแสดงให้คุณดู 00:05:45.000 --> 00:05:48.176 การกระทบกระแทกครั้งแรก ที่เราวัดด้วยอุปกรณ์นี้ 00:05:48.200 --> 00:05:52.456 หนึ่งในสิ่งที่ผมควรจะบอกก็คือ อุปกรณ์มีไจโรสโคปอยู่ในนั้น 00:05:52.480 --> 00:05:55.216 และนั่นทำให้เราสามารถวัดการหมุนของศีรษะได้ 00:05:55.240 --> 00:05:57.616 ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คิดว่า นั่นเป็นปัจจัยสำคัญ 00:05:57.640 --> 00:06:00.496 ที่อาจเริ่มบอกกับเราว่ามันเกิดอะไรขึ้น เมื่อเกิดการกระทบกระแทก 00:06:00.520 --> 00:06:01.880 ฉะนั้น โปรดดูวีดีโอนี้นะครับ NOTE Paragraph 00:06:03.280 --> 00:06:06.696 ผู้บรรยาย: คูก้าบุกเข้ามากันอีก แต่ถือว่าโชคดี 00:06:06.720 --> 00:06:08.360 มีช่องแล้วครับ 00:06:10.120 --> 00:06:11.696 ผมว่าเขาจะไม่เป็นไรนะ NOTE Paragraph 00:06:11.720 --> 00:06:13.680 (เสียงผู้ชมร้องอื้ออึง) NOTE Paragraph 00:06:18.560 --> 00:06:20.016 ทางด้านบนของจอของคุณ 00:06:20.040 --> 00:06:22.456 คุณจะเห็นเขาเข้ามาหลังเส้นแนว 00:06:22.480 --> 00:06:24.120 และถูกแยกออกไปอย่างปลอดภัย 00:06:28.240 --> 00:06:30.800 มันพุงเข้ามาหาคุณที่ความเร็วจริง คุณจะได้ยินสิ่งนี้ 00:06:32.640 --> 00:06:34.520 การชนที่เกิดจาก -- NOTE Paragraph 00:06:35.720 --> 00:06:39.176 เดวิด คามาริโญ: ขอโทษครับ ให้คุณดูสามครั้งนี่อาจจะมากไปหน่อย 00:06:39.200 --> 00:06:40.456 แต่คุณก็คงจะเข้าใจแล้วว่ามันเป็นอย่างไร NOTE Paragraph 00:06:40.480 --> 00:06:43.296 ฉะนั้น เมื่อคุณดูจากภาพนี้ 00:06:43.320 --> 00:06:47.136 ที่คุณเห็นได้ก็คือเขาถูกชนเข้าอย่างแรง และเขาก็เจ็บ 00:06:47.160 --> 00:06:48.816 แต่เมื่อเราสกัดข้อมูลออกมา 00:06:48.840 --> 00:06:50.840 จากฟันยางที่เราให้เขาใส่ไว้ 00:06:50.864 --> 00:06:53.576 เราสามารถเห็นรายละเอียดได้มากกว่า ละเอียดกว่า 00:06:53.600 --> 00:06:56.016 และหนึ่งในสิ่งที่เราสังเกตเห็น 00:06:56.040 --> 00:07:00.096 ก็คือเขาถูกชนทางด้านซ้ายล่างของหน้ากาก 00:07:00.120 --> 00:07:03.296 และนั่นก็ทำบางสิ่ง ซึ่งเป็นการกระทบกระแทกเบา ๆ 00:07:03.320 --> 00:07:05.016 ศีรษะไม่ได้เคลื่อนไปทางขวา 00:07:05.040 --> 00:07:06.976 อันที่จริง มันหมุนไปทางซ้ายก่อน 00:07:07.000 --> 00:07:09.856 จากนั้นเมื่อคอเริ่มย่อลงมา 00:07:09.880 --> 00:07:12.976 แรงของการกระแทกทำให้มันเคลื่อนไปทางด้านหลัง 00:07:13.000 --> 00:07:18.856 ฉะนั้นการเคลื่อนที่ไปทางซ้ายและขวา เป็นเหมือนกับการเคลื่อนที่ของแส้ 00:07:18.880 --> 00:07:23.296 และเราคิดว่านั่นนอาจเป็นสิ่งที่นำไปสู่ การบาดเจ็บของสมอง NOTE Paragraph 00:07:23.320 --> 00:07:27.096 ทีนี้ อุปกรณ์นี้จำกัดเพียงแค่ว่า มันสามารถวัดการเคลื่อนของกระโหลก 00:07:27.120 --> 00:07:30.536 แต่ที่เราอยากจะรู้ก็คือ มันเกิดอะไรขึ้นในสมอง 00:07:30.560 --> 00:07:34.056 ฉะนั้น เราจึงร่วมมือกับกลุ่มของ สวิน แคลิเวน ในสวีเดน 00:07:34.080 --> 00:07:37.656 พวกเขาพัฒนาแบบจำลองสมองที่มีขนาดจำกัด 00:07:37.680 --> 00:07:39.776 และในแบบจำลองนี้ 00:07:39.800 --> 00:07:43.136 การใช้ข้อมูลจากฟันยางของเรา จากการบาดเจ็บที่ผมแสดงให้คุณดู 00:07:43.160 --> 00:07:45.176 และที่คุณเห็นนี้ก็คือสมอง -- 00:07:45.200 --> 00:07:47.616 นี่เป็นภาพตัดขวางที่ทางด้านหน้า 00:07:47.640 --> 00:07:50.416 ของสมองที่ถูกบิดและถูกกระทบกระแทก อย่างที่ผมได้พูดถึง 00:07:50.440 --> 00:07:53.336 คุณจะเห็นว่ามันไม่เหมือนกับในวีดีโอของ CDC 00:07:53.360 --> 00:07:55.216 ทีนี้ สีที่คุณดูอยู่นี้ 00:07:55.240 --> 00:07:59.376 บอกว่าเนื้อเยื่อสมองถูกยืดไปมากน้อยแค่ไหน 00:07:59.400 --> 00:08:01.096 และส่วนสีแดงนั้นหมายถึง 50 เปอร์เซ็นต์ 00:08:01.120 --> 00:08:04.776 นั่นหมายถึงสมองได้ถูกยืดไป 50 เปอร์เซ็นต์ ของความยาวตามปกติ 00:08:04.800 --> 00:08:06.496 เนื้อเยื่อในบริเวณนั้น NOTE Paragraph 00:08:06.520 --> 00:08:09.776 และสิ่งสำคัญก็คือที่ผมอยากจะให้คุณสนใจ ก็คือจุดแดงนี้ 00:08:09.800 --> 00:08:13.256 จุดแดงนี้ใกล้กับส่วนกลางของสมอง 00:08:13.280 --> 00:08:14.536 และถ้าจะเปรียบเทียบ 00:08:14.560 --> 00:08:19.216 คุณไม่ค่อยเห็นสีแบบนั้นในส่วนผิวนอก 00:08:19.240 --> 00:08:21.600 ดังที่วีดีโอของ CDC แสดง NOTE Paragraph 00:08:22.960 --> 00:08:24.696 ทีนี้ เพื่อที่จะอธิบายในรายละเอียด 00:08:24.720 --> 00:08:28.336 เกี่ยวกับว่าเราคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้น เมื่อเกิดการกระทบกระแทก 00:08:28.360 --> 00:08:29.656 สิ่งหนึ่งที่ผมควรพูดถึง 00:08:29.680 --> 00:08:32.895 ก็คือเราและคนอื่น ๆ ได้สังเกต ว่าการกระทบกระแทกจะเกิดขึ้นได้มากกว่า 00:08:32.919 --> 00:08:36.895 เมื่อคุณถูกกระแทก และศีรษะของคุณหมุนไปในทิศทางนี้ 00:08:36.919 --> 00:08:39.176 มันเกิดได้บ่อย ๆ ในกีฬาอย่างอเมริกันฟุตบอล 00:08:39.200 --> 00:08:42.535 แต่มันน่าจะเป็นอันตรายมากกว่านั้น แล้วมันเกิดอะไรขึ้นในสถานการณ์นี้ 00:08:42.559 --> 00:08:45.576 ครับ สิ่งหนึ่งที่คุณจะสังเกตก็คือ ในสมองของมนุษย์ 00:08:45.600 --> 00:08:47.336 ที่แตกต่างจากของสัตว์อื่น ๆ 00:08:47.360 --> 00:08:49.816 คือเรามีพูใหญ่สองข้าง 00:08:49.840 --> 00:08:52.056 เรามีสมองซีกขวาและสมองซีกซ้าย 00:08:52.080 --> 00:08:55.136 และสิ่งสำคัญก็คือ ที่เราสังเกตเห็นในรูปนี้ 00:08:55.160 --> 00:08:58.416 ก็คือลึกลงไปในส่วนกลาง สมองซีกซ้ายและสมองซีกขวา 00:08:58.440 --> 00:09:01.376 นี่คือเนื้อเยื่อส่วนใหญ่ ที่อยู่ลึกลงไปในสมอง 00:09:01.400 --> 00:09:04.256 และในเนื้อเยื่อนั้น ที่คุณมองไม่เห็นในภาพนี้ 00:09:04.280 --> 00:09:05.496 และคุณต้องเชื่อผม 00:09:05.520 --> 00:09:07.216 ก็คือมันมีแผ่นที่เป็นเส้นใยของเนื้อเยื่อ 00:09:07.240 --> 00:09:08.456 ที่เรียกว่า แฟลกซ์ 00:09:08.480 --> 00:09:12.136 และมันก็วางตัวจากส่วนหน้าของศีรษะ ไปจนถึงส่วนหลังของศีรษะ 00:09:12.160 --> 00:09:13.376 และมันก็ค่อนข้างที่จะแข็ง 00:09:13.400 --> 00:09:16.856 และที่มันเกิดขึ้นก็คือ เมื่อคุณถูกกระแทก 00:09:16.880 --> 00:09:19.936 และศีรษะของคุณหมุนในทิศทางซ้ายขวา 00:09:19.960 --> 00:09:23.736 แรงสามารถถูกส่งผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว ลงไปตามแกนกลางของสมองของคุณ NOTE Paragraph 00:09:23.760 --> 00:09:26.000 ทีนี้ สิ่งที่อยู่ทางด้านล่างของเนื้อเยื่อคืออะไร 00:09:27.120 --> 00:09:29.616 มันเป็นเส้นสายของสมอง 00:09:29.640 --> 00:09:34.256 และอันที่จริงมัดสีแดงนี้ ที่อยู่ทางด้านล่างของเนื้อเยื่อ 00:09:34.280 --> 00:09:37.256 คือมัดใยเดี่ยวขนาดใหญ่ 00:09:37.280 --> 00:09:41.256 นั่นคือเส้นสายที่เชื่อมต่อ ซีกขวาและซ้ายของสมองของคุณ 00:09:41.280 --> 00:09:42.804 มันเรียกว่า คอร์ปัส แคลโลซัม 00:09:43.480 --> 00:09:45.416 และเราคิดว่านั่นอาจเป็น 00:09:45.440 --> 00:09:49.256 หนึ่งในกลไกที่สำคัญที่สุด ของการกระทบกระแทก 00:09:49.280 --> 00:09:53.976 และเมื่อแรงนั้นเคลื่อนลงมา พวกมันกระทบเข้ากับคอร์ปัส แคลโลซัม 00:09:54.000 --> 00:09:56.976 มันทำให้เกิดการแยกตัว ระหว่างสมองซีกขวาและซ้าย 00:09:57.000 --> 00:09:59.480 และสามารถอธิบายอาการบางอย่าง ของการกระทบกระแทกสมองได้ NOTE Paragraph 00:10:00.680 --> 00:10:03.496 การค้นพบนี้ยังสอดคล้องกัน กับสิ่งที่เราเห็น 00:10:03.520 --> 00:10:07.536 ในโรคสมองนี้ที่ผมพูดถึง โรคทางสมองที่บาดเจ็บเรื้อรัง 00:10:07.560 --> 00:10:13.096 นี่คือภาพของอดีตนักอเมริกันฟุตบอลอาชีพ วัยกลางคน 00:10:13.120 --> 00:10:17.096 และสิ่งที่ผมอยากจะเน้นก็คือ ถ้าคุณดูที่คอร์ปัส แคลโลซัม 00:10:17.120 --> 00:10:21.056 และผมจะย้อนกลับไปให้คุณดูขนาด ของคอร์ปัส แคลโลซัม ปกติ 00:10:21.080 --> 00:10:25.496 และขนาดของมันในคน ที่มีโรคทางสมองที่บาดเจ็บเรื้อรัง 00:10:25.520 --> 00:10:28.056 มันลีบลงไปมาก 00:10:28.080 --> 00:10:31.416 และมันก็เป็นเช่นเดียวกัน สำหรับพื้นที่ในส่วนล่าง 00:10:31.440 --> 00:10:33.216 ส่วนล่างเหล่านี้มีขนาดใหญ่กว่ามาก 00:10:33.240 --> 00:10:35.776 และเนื้อเยื่อทั้งหมดใกล้กับส่วนกลางของสมอง 00:10:35.800 --> 00:10:37.016 ค่อย ๆ ตายเมื่อเวลาผ่านไป 00:10:37.040 --> 00:10:40.600 ฉะนั้น สิ่งที่เราได้เรียนรู้มีความสอดคล้องกัน NOTE Paragraph 00:10:41.520 --> 00:10:44.176 ทีนี้ มันมีข่าวดีครับ 00:10:44.200 --> 00:10:47.656 ผมหวังว่าจะให้คุณรับรู้ได้ถึงความหวัง ในช่วงตอนจบของการบรรยายนี้ 00:10:47.680 --> 00:10:49.776 หนึ่งในสิ่งที่เราสังเกต 00:10:49.800 --> 00:10:52.056 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับกลไกล ของการบาดเจ็บนี้ 00:10:52.080 --> 00:10:56.136 ก็คือ แม้ว่าจะมีการส่งแรงอย่างรวดเร็ว ลงไปตามเนื้อเยื่อ 00:10:56.160 --> 00:10:59.456 มันก็ยังต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง 00:10:59.480 --> 00:11:03.816 และสิ่งที่เราคิดก็คือ ถ้าเราสามารถ ทำให้ศีรษะเคลื่อนช้าลงมากพอ 00:11:03.840 --> 00:11:07.056 เพื่อที่สมองจะไม่ค้างอยู่ด้านหลังกระโหลก 00:11:07.080 --> 00:11:10.656 แต่มันจะเคลื่อนไปกับกระโหลก อย่างประสานกันแล้ว 00:11:10.680 --> 00:11:13.936 เราอาจสามารถป้องกันกลไกล ที่ทำให้เกิดการกระทบกระแทกสมองได้ NOTE Paragraph 00:11:13.960 --> 00:11:16.640 ฉะนั้น เราจะทำให้ ศีรษะเคลื่อนช้าลงได้อย่างไร NOTE Paragraph 00:11:18.640 --> 00:11:20.376 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:11:20.400 --> 00:11:22.360 หมวกกันน๊อคขนาดใหญ่ 00:11:23.440 --> 00:11:26.296 ด้วยพื้นที่ที่มากขึ้น คุณมีเวลามากขึ้น 00:11:26.320 --> 00:11:29.416 และนี่มันก็น่าขำสักหน่อย สำหรับพวกคุณบางคนที่เห็นสิ่งนี้ 00:11:29.440 --> 00:11:31.736 นี่คือฟุตบอลลูกโป่ง มันเป็นกีฬาจริง ๆ นะครับ 00:11:31.760 --> 00:11:33.416 อันที่จริง ผมเห็นวัยรุ่นบางคน 00:11:33.440 --> 00:11:36.416 เล่นกีฬานี้ใกล้ ๆ กับบ้านของผม 00:11:36.440 --> 00:11:39.336 และเท่าที่ผมรู้ มันไม่เคยมีรายงาน เรื่องการกระทบกระแทกสมองเลย NOTE Paragraph 00:11:39.360 --> 00:11:40.376 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:11:40.400 --> 00:11:44.816 แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้ว หลักการนี้มันได้ผล 00:11:44.840 --> 00:11:46.216 แต่มันออกจะดูมากไปหน่อย 00:11:46.240 --> 00:11:51.496 มันไม่ใช่หลักการที่จะทำได้จริง ๆ สำหรับ การขี่รถจักรยานหรือการเล่นอเมริกันฟุตบอล 00:11:51.520 --> 00:11:55.896 เราก็เลยเกิดความร่วมมือกับบริษัทในสวีเดน ที่ชื่อว่า โฮฟดิง (Hövding) 00:11:55.920 --> 00:11:58.256 พวกคุณบางคนคงเคยเห็นผลงานของพวกเขาแล้ว 00:11:58.280 --> 00:12:02.656 และพวกเขาก็ใช้หลักการเดียวกัน ของอากาศเพื่อที่จะทำให้คุณมีพื้นที่มากขึ้น 00:12:02.680 --> 00:12:04.480 เพื่อป้องกันการกระทบกระแทก 00:12:05.320 --> 00:12:07.080 เด็ก ๆ ครับ อย่าเล่นเองที่บ้านนะครับ ขอร้องล่ะ 00:12:08.680 --> 00:12:10.840 นี่คือสตันต์แมนที่ไม่ได้ใส่หมวกกันน๊อค 00:12:12.200 --> 00:12:14.456 แต่ว่าเขามีปลอกคอ 00:12:14.480 --> 00:12:17.056 และปลอกคอนี้มีตัวตรวจจับอยู่ 00:12:17.080 --> 00:12:20.656 มันเป็นตัวตรวจจับประเภทเดียวกัน กับที่อยู่ในฟันยาง 00:12:20.680 --> 00:12:23.816 มันตรวจจับว่าเมื่อเราที่เขาน่าจะหกล้ม 00:12:23.840 --> 00:12:26.176 และมันก็มีถุงลมที่ระเบิดตัวออกมาและทำงาน 00:12:26.200 --> 00:12:29.976 โดยหลักการแล้ว มันทำงานแบบเดียวกัน กับถุงลมในรถยนต์ของคุณ จำเป็นอย่างยิ่ง 00:12:30.000 --> 00:12:32.936 และในการทดลองอุปกรณ์ของพวกเขา ในห้องทดลองของผม 00:12:32.960 --> 00:12:36.696 เราพบว่ามันสามารถลดความเสี่ยง ของการกระทบกระแทกในบางสถานการณ์ได้ 00:12:36.720 --> 00:12:38.856 เมื่อเปรียบเทียบกับ หมวกกันน๊อคจักรยานตามปกติ 00:12:38.880 --> 00:12:40.720 มันเป็นการพัฒนาที่ค่อนข้างน่าตื่นเต้น NOTE Paragraph 00:12:41.720 --> 00:12:46.416 แต่เพื่อที่เราจะรู้ถึงประโยชน์ของเทคโนโลยี 00:12:46.440 --> 00:12:48.296 ที่เราสามารถป้องกันการกระทบกระแทกได้ 00:12:48.320 --> 00:12:51.256 มันจะต้องเป็นไปตามมาตราฐาน 00:12:51.280 --> 00:12:52.976 นั่นคือความเป็นจริง 00:12:53.000 --> 00:12:56.136 อุปกรณ์นี้มีวางขายอยู่ในยุโรป 00:12:56.160 --> 00:12:59.856 แต่ไม่มีขายในอเมริกา และบางที่มันก็คงยังไม่มีขายในเร็ว ๆ นี้ 00:12:59.880 --> 00:13:01.416 ผมจะบอกพวกคุณว่าทำไม 00:13:01.440 --> 00:13:05.216 มันมีเหตุผลที่ดีและไม่ดี NOTE Paragraph 00:13:05.240 --> 00:13:07.456 หมวกกันน๊อคจักรยานถูกควบคุมโดยรัฐฯ 00:13:07.480 --> 00:13:11.216 คณะกรรมการคุ้มครองความปลอดภัยสินค้า สำหรับผู้บริโภคได้รับสิทธิ 00:13:11.240 --> 00:13:13.096 ในการรับรองหมวกกันน๊อคจักรยาน ที่จะวางจำหน่าย 00:13:13.120 --> 00:13:14.576 และนี่คือการทดสอบที่พวกเขาใช้ 00:13:14.600 --> 00:13:18.256 ซึ่งมันกลับไปยังสิ่งที่ผมบอกกับคุณ ในตอนต้นเกี่ยวกับโครงสร้างของกระโหลก 00:13:18.280 --> 00:13:19.696 นั่นเป็นเหตุผลของการทดสอบนี้ 00:13:19.720 --> 00:13:21.456 และนั่นเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำ 00:13:21.480 --> 00:13:24.336 มันสามารถช่วยชีวิตคุณได้ แต่มันไม่เพียงพอ ผมบอกได้เลย 00:13:24.360 --> 00:13:27.096 ยกตัวอย่างเช่น สิ่งหนึ่งที่การทดสอบนี้ ไม่ได้ประเมิน 00:13:27.120 --> 00:13:29.936 ก็คือมันไม่ได้บอกคุณ ว่าถุงลมนี้กำลังจะทำงาน 00:13:29.960 --> 00:13:33.856 อย่างถูกที่ถูกเวลา และจะไม่ทำงาน เมื่อมันไม่เป็นที่ต้องการหรือเปล่า 00:13:33.880 --> 00:13:35.936 คล้ายกัน มันไม่ได้บอกคุณ 00:13:35.960 --> 00:13:39.336 ว่าหมวกกันน๊อคนี้ จะป้องการการเกิดการกระทบกระแทกได้หรือไม่ 00:13:39.360 --> 00:13:43.096 และถ้าคุณดูหมวกกันน๊อคของนักอเมริกันฟุตบอล ซึ่งไม่ได้ถูกควบคุม 00:13:43.120 --> 00:13:45.496 พวกมันได้รับการทดสอบคล้ายกันมาก 00:13:45.520 --> 00:13:47.776 พวกมันไม่ได้ถูกควบคุม โดยรัฐฯ ไม่ว่าโดยวิธีใด 00:13:47.800 --> 00:13:50.936 พวกมันถูกควบคุมโดยหน่วยงานอุตสาหกรรม ซึ่งนั่นเป็นการทำงานของอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ 00:13:50.960 --> 00:13:53.976 แต่ด้วยหน่วยงานอุตสาหกรรม ผมบอกคุณได้ว่าพวกเขา 00:13:54.000 --> 00:13:55.376 ไม่ค่อยที่จะปรับเปลี่ยนมาตราฐาน 00:13:55.400 --> 00:13:58.656 ฉะนั้น ในห้องทดลองของผม ไม่เพียงแต่ศึกษากลไกการกระทบกระแทก 00:13:58.680 --> 00:14:02.136 แต่เรายังต้องการที่จะเข้าใจ ว่าเราจะมีมาตราฐานที่ดีกว่านี้ได้อย่างไร 00:14:02.160 --> 00:14:06.696 และเราก็หวังว่ารัฐฯ จะใช้ข้อมูลพวกนี้ 00:14:06.720 --> 00:14:08.456 เพื่อกระตุ้นสนับสนุนนวัตกรรม 00:14:08.480 --> 00:14:10.096 โดยให้ผู้บริโภครู้ว่า 00:14:10.120 --> 00:14:13.896 พวกเขาได้รับการป้องกันจากหมวกกันน๊อคแค่ไหน NOTE Paragraph 00:14:13.920 --> 00:14:17.296 และผมอยากที่จะพาพวกคุณกลับไป ยังคำถามแรกที่ผมถาม 00:14:17.320 --> 00:14:20.656 ซึ่งก็คือ ผมรู้สึกสบายใจหรือไม่ ที่จะให้ลูกของผมเล่นอเมริกันฟุตบอล 00:14:20.680 --> 00:14:22.416 หรือขึ่รถจักรยาน 00:14:22.440 --> 00:14:25.776 และนี่อาจเป็นเพียงผลลัพธ์ จากประสบการณ์การได้รับบาดเจ็บของผม 00:14:25.800 --> 00:14:29.800 ผมรู้สึกประหม่าที่เห็นโรส ลูกสาวของผมขี่จักรยาน 00:14:30.920 --> 00:14:32.576 เธออายุขวบครึ่ง 00:14:32.600 --> 00:14:38.056 และเธอก็อยากที่จะซิ่งลงไปตามถนน ในซานฟรานซิสโก 00:14:38.080 --> 00:14:40.416 นี่คือด้านล่างของถนนเหล่านี้ 00:14:40.440 --> 00:14:45.656 และเป้าหมายส่วนตัวของผม ก็คือ -- และผมก็เชื่อว่ามันเป็นไปได้ -- 00:14:45.680 --> 00:14:47.736 คือพัฒนาเทคโนโลยีนี้ต่อไป 00:14:47.760 --> 00:14:50.736 และอันที่จริง เรากำลังศึกษาบางสิ่ง ในห้องทดลองของผมโดยเฉพาะ 00:14:50.760 --> 00:14:53.713 ที่จะใช้พื้นที่ในหมวกกันน๊อค ได้อย่างเหมาะสมที่สุด 00:14:53.737 --> 00:14:56.216 และผมก็มั่นใจว่าเราจะสามารถทำได้ 00:14:56.240 --> 00:14:59.456 ก่อนที่เธอพร้อมที่จะขี่จักรยานสองล้อ 00:14:59.480 --> 00:15:00.856 ว่าจะมีอะไรสักอย่าง 00:15:00.880 --> 00:15:04.216 ที่สามารถที่จะลดความเสี่ยง ของการกระทบกระแทกสมองได้จริง ๆ 00:15:04.240 --> 00:15:07.376 และเป็นไปตามการควบคุมของร่างกาย NOTE Paragraph 00:15:07.400 --> 00:15:09.016 และสิ่งที่ผมอยากจะทำก็คือ -- 00:15:09.040 --> 00:15:12.416 และผมก็รู้ว่าสำหรับพวกคุณบางคน 00:15:12.440 --> 00:15:14.096 ผมมีเวลาสองสามปี -- 00:15:14.120 --> 00:15:18.256 ที่จะสามารถบอกกับผู้ปกครองและ ปู่ย่าตายายได้เมื่อผมถูกถาม 00:15:18.280 --> 00:15:22.696 ว่ามันปลอดภัยและดีต่อสุขภาพของลูก ๆ ของคุณ หรือไม่ที่จะทำกิจกรรมเหล่านี้ 00:15:22.720 --> 00:15:25.536 และผมก็โชคดีมาก ที่มีทีมที่แสนวิเศษที่สแตนฟอร์ด 00:15:25.560 --> 00:15:27.456 ที่ทำงานกันอย่างหนัก NOTE Paragraph 00:15:27.480 --> 00:15:31.576 ผมหวังว่าจะกลับมาในอีกสองสามปี พร้อมกับเรื่องราวในตอนจบ 00:15:31.600 --> 00:15:33.576 แต่สำหรับตอนนี้ ผมจะบอกคุณว่า 00:15:33.600 --> 00:15:36.536 อย่างได้เอาแต่กลัวเมื่อคุณได้ยินคำว่า การกระทบกระแทกสมอง 00:15:36.560 --> 00:15:37.776 มันยังมีหวังครับ NOTE Paragraph 00:15:37.800 --> 00:15:39.016 ขอบคุณครับ NOTE Paragraph 00:15:39.040 --> 00:15:43.543 (เสียงปรบมือ)