0:00:00.973,0:00:05.516 เราถูกสร้างขึ้นจากสิ่งเล็กๆ 0:00:05.516,0:00:08.031 แล้วฝังตัวลงในจักรวาลอันยิ่งใหญ่ 0:00:08.031,0:00:12.582 และความจริงก็คือเราไม่ได้มีความเข้าใจที่ดี[br]ต่อความเป็นจริง 0:00:12.582,0:00:14.161 ในทั้งสองระดับนั้น 0:00:14.161,0:00:15.763 และนั่นก็เป็นเพราะว่าสมองของเรา 0:00:15.763,0:00:20.157 ไม่ได้มีวิวัฒนาการมาให้เข้าใจโลก[br]ในระดับนั้น 0:00:20.157,0:00:24.377 แต่ว่า เราถูกกักเอาไว้ในมุมมอง[br]เพียงเสี้ยวบาง ๆ 0:00:24.377,0:00:26.143 ที่อยู่ตรงกลาง 0:00:26.723,0:00:31.191 แต่ว่ามันก็ประหลาด เพราะแม้แต่[br]เสี้ยวบาง ๆ ที่เราเรียกว่าเป็นบ้านนั้น 0:00:31.191,0:00:34.176 เราก็ยังไม่เห็นสิ่ง[br]ที่กำลังเกิดขึ้นเป็นส่วนใหญ่ 0:00:34.176,0:00:37.566 เช่น ลองดูสีสันของโลกของเรา 0:00:37.566,0:00:42.279 ซึ่งเป็นคลื่นแสง เป็นรังสีแม่เหล็กไฟฟ้า [br]ที่สะท้อนออกจากวัตถุ 0:00:42.279,0:00:45.716 แล้วชนเข้ากับตัวรับพิเศษ[br]ทางด้านหลังตาของเรา 0:00:45.716,0:00:49.361 แต่เราไม่ได้เห็นคลื่นแสงทั้งหมดที่มีอยู่ 0:00:49.361,0:00:51.056 อันที่จริง สิ่งที่เราเห็น 0:00:51.056,0:00:55.119 น้อยกว่าหนึ่งใน 10 ล้านล้าน[br]ของที่มีทั้งหมด 0:00:55.119,0:00:58.486 ดังนั้น มีคลื่นวิทยุและไมโครเวฟ 0:00:58.486,0:01:01.783 และเอ็กซ์เรย์ และแกมม่าเรย์[br]ผ่านร่างกายของคุณอยู่ตอนนี้ 0:01:01.783,0:01:04.732 และคุณก็ไม่ได้รู้สึกถึงมันเลย 0:01:04.732,0:01:07.913 เพราะว่าคุณไม่ได้มาพร้อมกับตัวรับทางชีวภาพ[br]ที่มีความเหมาะสม 0:01:07.913,0:01:09.121 สำหรับตรวจจับมัน 0:01:09.631,0:01:12.198 มีการสื่อสารทางโทรศัพท์มือถือเป็นพัน ๆ 0:01:12.198,0:01:13.754 กำลังผ่านตัวคุณไปตอนนี้ 0:01:13.754,0:01:16.055 และคุณก็บอดต่อสัญญาณเหล่านั้น 0:01:16.055,0:01:19.953 ทีนี้ มันไม่ใช่ว่า [br]สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถเห็นได้โดยธรรมชาติ 0:01:19.953,0:01:24.852 งู สามารถรวมเอารังสีอินฟาเรดเข้ามา[br]ในโลกความเป็นจริงของมัน 0:01:24.852,0:01:28.730 และผึ้งก็รวมเอารังสีอัลตราไวโอเลต[br]เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการมองโลกใบนี้ 0:01:28.730,0:01:31.655 และแน่นอนว่าเราก็สร้างอุปกรณ์[br]ในแผงหน้าปัดรถของเรา 0:01:31.655,0:01:34.883 ให้จับสัญญาณช่วงความถี่วิทยุ 0:01:34.883,0:01:38.575 และก็สร้างเครื่องมือในโรงพยาบาล[br]ให้จับช่วงของรังสีเอ็กส์ 0:01:38.575,0:01:41.965 แต่คุณไม่สามารถรับสัมผัสสิ่งเหล่านี้[br]ได้ด้วยตัวเอง 0:01:41.965,0:01:43.474 อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังไม่ได้ 0:01:43.474,0:01:47.421 เพราะว่าคุณไม่ได้ประกอบด้วยตัวรับที่เหมาะสม 0:01:47.421,0:01:51.902 ทีนี้ มันหมายความว่า[br]ประสบการณ์รับรู้ความเป็นจริงของเรา 0:01:51.902,0:01:55.362 ถูกจำกัดด้วยชีวภาพของเราเอง 0:01:55.362,0:01:57.916 และนั่นขัดต่อสามัญสำนึก 0:01:57.916,0:02:00.179 ว่าตาของเรา หูของเรา และปลายนิ้วของเรา 0:02:00.179,0:02:04.394 ตรวจจับความเป็นจริงข้างนอกนั่นได้ 0:02:04.394,0:02:10.013 แต่จริง ๆ แล้ว สมองของเรา[br]เก็บตัวอย่างเพียงบางส่วนของโลกเท่านั้น 0:02:10.013,0:02:12.080 ทีนี้ ในทั่วทั้งอาณาจักรสัตว์ 0:02:12.080,0:02:15.400 สรรพสัตว์รับความเป็นจริงในส่วนที่แตกต่างกัน 0:02:15.400,0:02:18.349 ดังนั้น ในโลกที่มืดบอด และไร้เสียง[br]ของพวกเห็บไร 0:02:18.349,0:02:22.830 สัญญาณที่สำคัญก็คือ อุณหภูมิ[br]และกรดบิวทีริค 0:02:22.830,0:02:25.756 ในโลกของปลากรายแอฟริกา โกสต์[br](ghost knifefish) สีดำ 0:02:25.756,0:02:30.655 โลกแห่งการรับสัมผัสของมัน[br]เต็มไปด้วยสีมากมายจากสนามไฟฟ้า 0:02:30.655,0:02:33.116 และสำหรับค้างคาวที่ใช้เสียงสะท้อน 0:02:33.116,0:02:37.156 ความเป็นจริงของมันสร้างขึ้นจาก[br]คลื่นการอัดอากาศ 0:02:37.156,0:02:41.521 นั่นเป็นเสี้ยวหนึ่งของนิเวศวิทยาของมัน[br]ที่พวกมันสามารถรับรู้ได้ 0:02:41.521,0:02:43.379 และทางวิทยาศาสตร์[br]เรามีคำเรียกปรากฏการณ์นี้ 0:02:43.403,0:02:44.911 เรียกว่า อูมเวลท์ (umwelt) 0:02:44.911,0:02:48.603 ซึ่งเป็นภาษาเยอรมันสำหรับโลกรอบตัว 0:02:48.603,0:02:51.598 ทีนี้ สมมติว่า สัตว์ทุกตัวเข้าใจว่า 0:02:51.598,0:02:55.987 อูมเวลท์ของมันเป็นความจริงเชิงวัตถุทั้งหมด 0:02:55.987,0:02:58.281 เพราะว่า ทำไมคุณจะต้องมาหยุดนึกสงสัย 0:02:58.281,0:03:00.802 ว่ามันยังจะมีอะไรมากกว่าที่เราสัมผัสได้อีกล่ะ 0:03:01.412,0:03:04.126 แต่ทว่า ที่เราทุกคนเป็น[br]ก็คือเรายอมรับความเป็นจริง 0:03:04.126,0:03:06.772 อย่างที่มีการแสดงให้เราเห็น 0:03:07.222,0:03:09.717 ลองมากระตุ้นความคิดเรื่องนี้กันหน่อยนะครับ 0:03:09.717,0:03:12.373 ลองนึกดูว่าคุณเป็นสุนัขล่าเนื้อบลัดฮาวด์ 0:03:12.973,0:03:15.178 โลกทั้งใบของคุณเป็นเรื่องการดมกลิ่น 0:03:15.178,0:03:19.590 คุณมีโพรงจมูกยาวๆ [br]ที่มีตัวรับกลิ่น 200 ล้านตัวในนั้น 0:03:19.590,0:03:24.094 และคุณมีจมูกที่เปียก[br]ที่จับและกักโมเลกุลกลิ่น 0:03:24.094,0:03:28.088 และจมูกของคุณยังจะมีร่อง[br]เพื่อที่คุณจะรับกลิ่นจากอากาศได้มาก ๆ 0:03:28.088,0:03:31.362 การดมกลิ่นเป็นทุกอย่างสำหรับคุณ 0:03:31.362,0:03:35.263 ดังนั้น วันหนึ่ง [br]คุณหยุดอยู่บนหนทางสู่การปฏิวัติ 0:03:35.263,0:03:38.583 คุณมองนายมนุษย์ของคุณและคิดว่า 0:03:38.583,0:03:43.393 "มันจะเป็นอย่างไรนะ [br]ที่จะมีจมูกห่วย ๆ อย่างมนุษย์ 0:03:43.393,0:03:45.083 (เสียงหัวเราะ) 0:03:45.083,0:03:48.335 เป็นอย่างไร เมื่อคุณสูดอากาศไร้ประสิทธิภาพ 0:03:48.335,0:03:52.384 คุณไม่รู้ได้ยังไงว่ามีแมวห่างออกไป 100 หลา 0:03:52.384,0:03:55.718 หรือเพื่อนบ้านของคุณอยู่ตรงนี้[br]เมื่อหกชั่วโมงก่อน" 0:03:55.718,0:03:58.458 (เสียงหัวเราะ) 0:03:58.458,0:04:00.757 นั่นเป็นเพราะเราเป็นมนุษย์ 0:04:00.757,0:04:03.404 เราไม่เคยมีประสบการณ์ถึงโลกแห่งกลิ่น 0:04:03.404,0:04:06.083 เราจึงไม่คิดถึงมัน 0:04:06.083,0:04:10.114 เพราะว่าเราว่าใจอูมเวลท์ของเราเต็มที่ 0:04:10.114,0:04:13.777 แต่คำถามก็คือ[br]เราต้องกักตัวเองอยู่ที่อย่างนั้นหรือ 0:04:14.317,0:04:18.845 เฉกเช่นนักประสาทวิทยา ผมมีความสนใจ[br]ถึงหนทางที่เทคโนโลยี 0:04:18.845,0:04:21.468 อาจจะขยายอูมเวลท์ของเราได้ 0:04:21.468,0:04:25.108 และการที่มันจะเปลี่ยนประสบการณ์มนุษย์เรา 0:04:26.228,0:04:29.781 ครับ เรารู้แล้วว่า เราสามารถจับคู่เทคโนโลยี[br]เข้ากับชีวภาพของเรา 0:04:29.781,0:04:33.565 เพราะมันมีคนเป็นแสน ๆ 0:04:33.565,0:04:37.164 ที่มีการฟังและการมองเห็นแบบประดิษฐ์ 0:04:37.164,0:04:41.553 ครับ การทำงานของมันก็คือ คุณใช้ไมโครโฟน[br]และแปลงเป็นสัญญาณแบบดิจิตัล 0:04:41.553,0:04:45.291 และนำแท่งขั้วไฟฟ้าไปไว้ในหูชั้นใน 0:04:45.291,0:04:47.590 หรือสำหรับเรตินาประดิษฐ์[br]คุณใช้กล้อง 0:04:47.590,0:04:50.864 และแปลงสัญญาณเป็นดิจิตัล[br]และจากนั้นเสียบแผงขั้วไฟฟ้า 0:04:50.864,0:04:53.882 ไปที่ประสาทตาโดยตรง 0:04:53.882,0:04:57.806 และเร็ว ๆ นี้ เมื่อ 15 ปีมานี้เอง 0:04:57.806,0:05:01.544 มีนักวิทยาศาสตร์มากมายที่ยังคิดว่า[br]เทคโนโลยีเหล่านี้คงไม่ประสบความสำเร็จ 0:05:01.544,0:05:06.723 ทำไมน่ะหรือ ก็เพราะว่าเทคโนโลยีพวกนี้[br]พูดภาษาของซิลิคอนแวลลีย์ 0:05:06.723,0:05:12.295 และมันก็ไม่ใช่ภาษาเดียวกันกับที่ใช้โดย[br]อวัยวะรับสัมผัสชีวภาพตามธรรมชาติของเรา 0:05:12.295,0:05:14.710 แต่ความจริง มันสามารถใช้การได้เหมือนกัน 0:05:14.710,0:05:19.299 สมองพบวิธี ที่จะใช้สัญญาณดังกล่าวได้ดี 0:05:19.719,0:05:21.233 ทีนี้ เราจะเข้าใจมันได้อย่างไร 0:05:21.763,0:05:23.458 ครับ นี่คือความลับใหญ่เลย 0:05:23.458,0:05:28.728 สมองของคุณไม่ได้ฟังหรือมองเห็นอะไรเลย 0:05:28.728,0:05:35.183 สมองของคุณถูกขังอยู่ในห้องแห่งความเงียบ[br]และความมืด ภายในกระโหลกของคุณ 0:05:35.183,0:05:38.991 ทั้งหมดที่มันได้เห็นก็คือ[br]สัญญาณเคมีไฟฟ้า 0:05:38.991,0:05:41.540 ที่เข้ามาตามสายข้อมูลต่างๆ กัน 0:05:41.540,0:05:45.992 และนั่นคือข้อมูลทั้งหมดที่มันต้องทำการ[br]ไม่มีอะไรมากกว่านี้ 0:05:46.672,0:05:48.924 เอาล่ะ น่าสนใจครับ 0:05:48.924,0:05:51.687 ที่สมองของเรารับสัญญาณเหล่านี้[br]ได้ดีทีเดียว 0:05:51.687,0:05:55.238 และสกัดเอารูปแบบ[br]และความหมายของสัญญาณ 0:05:55.238,0:05:59.292 ดังนั้นมันนำเอาจักรวาลภายในนี้[br]และนำมาประกอบเข้าเป็นเรื่องราว 0:05:59.292,0:06:04.179 เป็นสิ่งนี้ เป็นโลกทางนามธรรมของคุณ 0:06:04.179,0:06:06.129 แต่นี่คือจุดสำคัญครับ 0:06:06.129,0:06:09.519 สมองของคุณไม่ได้รู้ และไม่ได้สนใจ 0:06:09.519,0:06:12.561 ว่ามันได้ข้อมูลมาจากไหน 0:06:12.561,0:06:17.414 ไม่ว่าข้อมูลใดเข้ามา[br]มันก็แค่หาทางจัดการกับมัน 0:06:17.414,0:06:19.852 และนี่ก็เป็นเหมือนกับเครื่องจักร[br]ที่ทรงประสิทธิภาพ 0:06:19.852,0:06:24.008 เป็นเหมือนกับคอมพิวเตอร์[br]ที่ทำหน้าที่ได้ทั่วไป 0:06:24.008,0:06:26.423 และมันก็แค่นำเข้าข้อมูลทุกอย่าง 0:06:26.423,0:06:29.023 และพยายามค้นหา[br]ว่ามันจะต้องทำอะไร 0:06:29.023,0:06:32.669 และวิธีนี้ ผมคิดว่า เป็นการปลดปล่อย[br]พระแม่แห่งธรรมชาติ 0:06:32.669,0:06:37.452 ให้สามารถดัดแปลงช่องข้อมูลหลายรูปแบบ 0:06:37.452,0:06:40.284 ผมจึงขอเรียกมันว่าแบบจำลอง พี. เอช.[br]ของวิวัฒนาการ 0:06:40.284,0:06:42.328 และผมไม่อยากที่จะลงลึกเกินไป 0:06:42.328,0:06:45.369 แต่ พี. เอช. ย่อมาจาก[br]โพเตโต้ เฮด [หัวมัน] 0:06:45.369,0:06:49.200 และผมใช้ชื่อนี้ เพื่อเน้นย้ำว่า[br]ตัวรับสัมผัสเหล่านี้ 0:06:49.200,0:06:52.451 ที่เรารู้จักและรัก [br]เช่นตา หู และปลายนิ้วของเรา 0:06:52.451,0:06:56.770 นี่มันเป็นเหมือนอุปกรณ์รอบข้างทั่วไป[br]ที่พร้อมใช้งาน 0:06:56.770,0:07:00.044 คุณต่อมันเข้า และมันก็พร้อมใช้งานเลย 0:07:00.044,0:07:05.153 สมองของคุณจะตัดสินว่าต้องทำอย่างไร[br]กับข้อมูลที่เข้ามา 0:07:06.243,0:07:08.449 และเมื่อคุณมองไปรอบๆ ในอาณาจักรสัตว์ 0:07:08.449,0:07:11.096 คุณจะพบอุปกรณ์รอบข้างมากมาย 0:07:11.096,0:07:15.206 เช่น งูมีอวัยวะรับความร้อน [br]ซึ่งตรวจจับอินฟาเรด 0:07:15.206,0:07:18.456 และปลากรายแอฟริกา โกสต์ก็มีตัวรับไฟฟ้า 0:07:18.456,0:07:21.057 และตัวตุ่นจมูกดาวก็มีส่วนที่ยื่นยาว 0:07:21.057,0:07:23.704 ที่มีนิ้วถึง 22 นิ้ว 0:07:23.704,0:07:27.373 ที่ใช้สัมผัสสิ่งรอบ ๆ ตัว[br]แล้วสร้างภาพโลกสามมิติ 0:07:27.373,0:07:31.297 และนกหลายชนิดมีแม่เหล็ก[br]ฉะนั้นพวกมันจึงสามารถตอบสนองต่อทิศทาง 0:07:31.297,0:07:33.792 ตามสนามแม่เหล็กของโลกได้ 0:07:33.792,0:07:37.664 นี่ก็หมายความว่า[br]ธรรมชาติไม่จำเป็นต้องออกแบบสมอง 0:07:37.664,0:07:40.079 เรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง 0:07:40.079,0:07:44.560 แต่ว่า เมื่อได้ตั้งการทำงานของสมอง[br]เป็นหลักเป็นพื้นฐานแล้ว 0:07:44.560,0:07:49.239 ธรรมชาติก็เหลือแต่[br]จะต้องทำการออกแบบอุปกรณ์รอบข้าง 0:07:49.239,0:07:52.164 เอาล่ะ มันหมายถึงอย่างนี้ครับ 0:07:52.164,0:07:54.184 บทเรียนที่เกิดขึ้นก็คือ 0:07:54.184,0:07:57.853 ไม่มีอะไรพิเศษ หรือเป็นรากฐาน 0:07:57.853,0:08:00.848 เกี่ยวกับระบบชีวภาพ[br]ที่มาเกิดมาพร้อมกับมัน 0:08:00.848,0:08:02.915 มันเป็นเพียงสิ่งที่เราได้รับตกทอดมา 0:08:02.915,0:08:06.142 จากวิถีแห่งวิวัฒนาการอันซับซ้อน 0:08:06.142,0:08:09.671 แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เราจะต้อง[br]ติดอยู่กับมันตลอดไป 0:08:09.671,0:08:11.715 และการพิสูจน์ที่ดีที่สุดของหลักการนี้ 0:08:11.715,0:08:14.315 ก็มาจากสิ่งที่เรียกว่า[br]การแทนที่ของระบบสัมผัส 0:08:14.315,0:08:17.543 ซึ่งหมายถึงการป้อนข้อมูล[br]เข้าไปในสมอง 0:08:17.543,0:08:20.329 ผ่านช่องทางสัมผัสที่ไม่ปกติ 0:08:20.329,0:08:23.208 และสมองก็แค่หาทางว่ามันควรทำอย่างไร 0:08:23.208,0:08:25.669 ทีนี้ นั่นอาจฟังดูเลื่อนลอย 0:08:25.669,0:08:30.621 แต่งานตีพิมพ์แรกที่แสดงสิ่งนี้[br]ได้ตีพิมพ์ในวารสาร เนเจอร์ ในปีค.ศ. 1969 0:08:31.985,0:08:34.353 นักวิทยาศาสตร์นามว่า [br]พอล บาร์ก-อี-ริตา 0:08:34.353,0:08:37.581 นำคนตาบอดมานั่ง[br]บนเก้าอี้หมอฟันแบบดัดแปลง 0:08:37.581,0:08:39.926 และจัดการให้ข้อมูลในรูปแบบวีดีโอ 0:08:39.926,0:08:42.178 และเอาอะไรบางอย่างวางไว้หน้ากล้อง 0:08:42.178,0:08:44.639 และจากนั้นคุณก็จะรู้สึกว่า 0:08:44.639,0:08:47.565 ถูกจิ้มที่ด้านหลังด้วยร่องขดลวด 0:08:47.565,0:08:50.049 ถ้าคุณขยับแก้วกาแฟหน้ากล้อง 0:08:50.049,0:08:52.394 คุณก็จะรู้สึกบนหลังคุณ 0:08:52.394,0:08:55.482 และเป็นเรื่องน่าทึ่งที่ว่า[br]คนตาบอดค่อนข้างเก่ง 0:08:55.482,0:08:59.035 ในการตัดสินใจว่าอะไรอยู่หน้ากล้อง 0:08:59.035,0:09:02.820 แค่เพียงสัมผัสมันผ่านหลังของพวกเขา 0:09:02.820,0:09:06.326 เอาล่ะ มันมีตัวอย่างมากมาย[br]จากเรื่องตัวอย่างคล้าย ๆ กันนี้ 0:09:06.326,0:09:09.600 เช่น แว่นตาโซนิกที่นำผลวีดีโอ[br]ที่แสดงต่อหน้าคุณ 0:09:09.600,0:09:12.455 และเปลี่ยนเป็นแผนที่เสียง 0:09:12.455,0:09:14.932 ฉะนั้นเมื่อสิ่งต่างๆ ขยับ[br]หรือเข้ามาใกล้ หรือห่างออกไป 0:09:14.956,0:09:17.030 มันจะมีเสียง "หึ่ง หึ่ง หึ่ง" 0:09:17.030,0:09:19.003 เหมือนกับเสียงที่ไม่ประสานกัน 0:09:19.003,0:09:22.997 แต่หลังจากสองสามสัปดาห์[br]คนตาบอดก็เริ่มจะเก่ง 0:09:22.997,0:09:25.319 ในการทำความเข้าใจ[br]ว่าอะไรอยู่ตรงหน้าพวกเขา 0:09:25.319,0:09:27.966 จากแค่ที่พวกเขาได้ยิน 0:09:27.966,0:09:29.966 และมันไม่จำเป็นจะต้องเป็นข้อมูลผ่านหู 0:09:29.990,0:09:33.354 ระบบนี้ใช้แผงการสัมผัสเชิงไฟฟ้า[br]ที่วางไว้บนหน้าผาก 0:09:33.354,0:09:37.044 ฉะนั้นไม่ว่าอะไรอยู่หน้ากล้อง[br]คุณก็จะรู้สึกมันได้ที่หน้าผาก 0:09:37.044,0:09:39.897 ทำไมต้องเป็นหน้าผากน่ะหรือครับ[br]เพราะว่าคุณไม่ได้ใช้มันมากนัก 0:09:39.897,0:09:44.103 ตัวอย่างใหม่ล่าสุด เรียกว่า "เบรนพอร์ท" 0:09:44.103,0:09:47.852 และนี่คือแผงไฟฟ้าที่อยู่บนลิ้น 0:09:47.852,0:09:51.968 และข้อมูลวีดีโอที่ป้อนเข้ามาก็แปลงเป็น[br]สัญญาณการสัมผัสเชิงไฟฟ้า 0:09:51.968,0:09:58.455 และคนตาบอดก็เชี่ยวชาญในการใช้มัน[br]จนเขาสามารถขว้างบอลลงตะกร้าได้เลย 0:09:58.455,0:10:02.471 หรือพวกเขาสามารถนำร่องผ่านสิ่งกีดขวาง[br]ที่ค่อนข้างซับซ้อนได้ 0:10:03.311,0:10:07.525 พวกเขาสามารถมองเห็นได้ผ่านลิ้น 0:10:07.525,0:10:09.731 ทีนี้ มันฟังดูเหลือเชื่อมากเลยใช่ไหมครับ 0:10:09.731,0:10:12.540 แต่จำไว้นะครับว่า ภาพทุกอย่างที่มีนั้น 0:10:12.540,0:10:16.557 เป็นสัญญาณเคมีไฟฟ้า[br]ที่วิ่งไปรอบ ๆ สมองของคุณ 0:10:16.557,0:10:19.251 สมองของคุณไม่รู้หรอกว่าสัญญาณมาจากไหน 0:10:19.251,0:10:22.687 มันแค่เข้าใจว่าต้องทำอย่างไร[br]กับสัญญาณพวกนั้น 0:10:22.687,0:10:28.493 ฉะนั้น สิ่งที่กลุ่มวิจัยของผมสนใจ[br]ก็คือการแทนที่สัมผัสสำหรับคนหูหนวก 0:10:28.493,0:10:31.232 และโครงการนี้ก็กำลังดำเนินการอยู่ 0:10:31.232,0:10:34.227 โดยมีนักศึกษาบัณฑิตศึกษาในกลุ่มวิจัยของผม[br]สก๊อต โนวิกช์ 0:10:34.227,0:10:36.526 ผู้เป็นแกนนำทำวิทยานิพนธ์ของเขา 0:10:36.526,0:10:38.522 และนี่คือสิ่งที่เราต้องการทำ 0:10:38.522,0:10:42.516 เราต้องการที่จะแปลงเสียงที่มีในโลกนี้ 0:10:42.516,0:10:47.392 ไปเป็นสิ่งที่คนหูหนวกสามารถเข้าใจได้ 0:10:47.392,0:10:51.920 เราต้องการทำสิ่งนี้ เพื่อให้ประสิทธิภาพ[br]และการเข้าถึงกับระบบคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ 0:10:51.920,0:10:56.796 เราต้องการความมั่นใจว่า[br]ระบบจะทำงานได้บนโทรศัพท์มือถือและแท๊บเล็ต 0:10:56.796,0:10:59.094 และเรายังต้องการทำให้มันสวมใส่ได้ 0:10:59.094,0:11:02.136 เป็นอะไรที่คุณสามารถใส่ไว้ใต้เสื้อผ้า 0:11:02.136,0:11:03.816 นี่เป็นแนวความคิดครับ 0:11:05.326,0:11:10.402 และขณะที่ผมพูดนี้ เสียงของผมจะถูกจับ[br]โดยแท็บเล็ต 0:11:10.402,0:11:16.160 และจากนั้นมันก็ส่งข้อมูลไปยังเสื้อกั๊ก[br]ที่เต็มไปด้วยมอเตอร์สั่น 0:11:16.160,0:11:19.597 เหมือนกับมอเตอร์ในโทรศัพท์มือถือคุณ 0:11:19.597,0:11:21.988 ระหว่างที่ผมกำลังพูดอยู่นี้ 0:11:21.988,0:11:28.327 เสียงกำลังแปลงเป็น[br]รูปแบบการสั่นบนเสื้อกั๊ก 0:11:28.327,0:11:29.906 ทีนี้มันไม่ได้เป็นเพียงแค่แนวคิด 0:11:29.906,0:11:35.014 แท๊บเล็ตนี้กำลังส่งสัญญาณบลูทูท[br]และผมก็กำลังใส่เสื้อกั๊กนั้นอยู่ 0:11:35.014,0:11:37.323 ดังนั้น ในขณะที่ผมพูดอยู่นี้ [br](เสียงปรบมือ) 0:11:38.033,0:11:43.966 เสียงกำลังแปลงเป็นรูปแบบการสั่นแบบพลวัต 0:11:43.966,0:11:49.340 ผมรู้สึกได้ถึงโลกแห่งเสียงรอบ ๆ ตัว 0:11:49.340,0:11:53.404 เราได้ทำการทดสอบกับคนตาบอดแล้วตอนนี้ 0:11:53.404,0:11:56.910 และเราก็พบว่า ไม่นาน 0:11:56.910,0:12:00.300 คนจะเริ่มรู้สึกได้ พวกเขาจะเริ่มเข้าใจ 0:12:00.300,0:12:02.970 ภาษาของเสื้อกั๊ก 0:12:02.970,0:12:07.753 นี่คือ โจนาธาน[br]เขาอายุ 37 ปี และมีวุฒิปริญญาโท 0:12:07.753,0:12:10.098 เขาเกิดมาหูหนวกสนิท 0:12:10.098,0:12:14.208 ซึ่งหมายความว่าเขาไม่มี อูมเวลท์ บางส่วน 0:12:14.208,0:12:18.596 ฉะนั้น โจนาธาน ฝึกซ้อมกับเสื้อกั๊กนี้[br]เป็นเวลาสี่วัน วันละสองชั่วโมง 0:12:18.596,0:12:21.876 และตอนนี้ เขามาถึงวันที่ห้า 0:12:21.876,0:12:24.012 สก๊อต โนวิกช์: คุณ 0:12:24.012,0:12:27.226 เดวิด อีเกอร์แมน: เมื่อสก๊อตกล่าวคำ[br]โจนาธานจะรู้สึกได้จากเสื้อกั๊ก 0:12:27.226,0:12:30.282 และเขาจะเขียนคำไว้บนกระดาน 0:12:30.282,0:12:34.168 สก๊อต: ที่ไหน ที่ไหน 0:12:34.168,0:12:37.805 เดวิด: โจนาธานสามารถที่จะแปลรูปแบบที่ซับซ้อน[br]ของการสั่น 0:12:37.805,0:12:40.684 ไปเป็นความเข้าใจในคำที่พูด 0:12:40.684,0:12:44.283 สก๊อต: แตะ แตะ 0:12:44.283,0:12:48.723 เดวิด: เอาล่ะ เขาไม่ได้ทำ -- 0:12:48.723,0:12:54.784 (เสียงปรบมือ) -- 0:12:55.944,0:13:00.030 โจนาธานไม่ได้ทำการนี้โดยตั้งใจ[br]เพราะว่ารูปแบบข้อมูลซับซ้อนเกินไป 0:13:00.030,0:13:05.510 แต่สมองของเขาเริ่มที่จะถอดรูปแบบ[br]ที่สามารถทำให้มันเข้าใจได้ 0:13:05.510,0:13:07.786 ว่าข้อมูลนั้นคืออะไร 0:13:07.786,0:13:11.988 และความคาดหวังของเราก็คือ[br]หลังจากที่สวมสิ่งนี้เป็นเวลาประมาณ 3 เดือน 0:13:11.988,0:13:16.586 เขาจะมีประสบการณ์สัมผัสตรงของการได้ยิน 0:13:16.586,0:13:20.765 ในแบบเดียวกับที่เมื่อคนตาบอด[br]ลูบไปตามอักษรเบล 0:13:20.765,0:13:26.362 ความหมายผุดขึ้นมาจากหน้ากระดาษ[br]โดยไม่ต้องใช้ความคิดใดๆ ช่วยเหลืออีก 0:13:26.941,0:13:30.494 ครับ เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลง 0:13:30.494,0:13:34.278 เพราะว่าการแก้ปัญหาหูหนวกอื่นมีอย่างเดียว[br]คือการปลูกถ่ายคลอเคลียร์ (cochlear) 0:13:34.278,0:13:37.181 และนั่นต้องอาศัยการผ่าตัด 0:13:37.181,0:13:42.335 และระบบนี้สามารถผลิตได้ถูกกว่า[br]ถึง 40 เท่าของของการปลูกถ่ายคลอเคลียร์ 0:13:42.335,0:13:47.234 ซึ่งเปิดโอกาสให้เทคโนโลยีนี้ในระดับสากล[br]แม้กระทั่งกับประเทศที่จนที่สุด 0:13:48.052,0:13:53.171 ทีนี้ เราได้รับแรงสนับสนุนอย่างมาก[br]จากผลของการแทนที่สัมผัสนี้ 0:13:53.171,0:13:57.374 แต่สิ่งที่เราคิดกันเยอะมากก็คือ[br]การเพิ่มสัมผัส 0:13:57.374,0:14:02.803 คือเราจะใช้เทคโนโลยีแบบนี้[br]เพื่อเพิ่มสัมผัสแบบใหม่ได้อย่างไร 0:14:02.803,0:14:05.937 เพื่อที่จะขยาย อูมเวลท์ ของคน 0:14:05.937,0:14:10.186 ยกตัวอย่างเช่น เราจะสามารถป้อนข้อมูล[br]ตามเวลาจริงจากอินเทอร์เน็จ 0:14:10.186,0:14:12.067 ตรงเข้าสมองใครสักคน 0:14:12.067,0:14:15.945 และเขาคนนั้นยังสามารถพัฒนา[br]ประสบการณ์สัมผัสได้โดยตรงหรือไม่ 0:14:15.945,0:14:18.482 นี่คือการทดลองที่เราทำกัน 0:14:18.482,0:14:22.376 คนที่รับการทดลองรู้สึกถึงการผ่านกระแสข้อมูล[br]ที่มาจากอินเตอร์เน็ตได้ตามเวลาจริง 0:14:22.376,0:14:24.187 เป็นเวลาห้าวินาที 0:14:24.187,0:14:27.456 จากนั้น จะมีปุ่มสองปุ่มปรากฏขึ้น[br]และเขาก็ต้องตัดสินใจ 0:14:27.456,0:14:29.145 เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น 0:14:29.145,0:14:31.841 เขาตัดสินใจและได้รับผลตอบรับ[br]ในอีกหนึ่งวินาทีต่อมา 0:14:31.841,0:14:33.046 ทีนี้นะครับ 0:14:33.046,0:14:35.690 ผู้รับการทดลองของเรา[br]ไม่รู้เลยว่ารูปแบบเหล่านั้นคืออะไร 0:14:35.690,0:14:39.361 แต่พวกเราจะเห็นว่าเขาจะทำได้ดีขึ้นหรือไม่[br]ว่าจะตัดสินใจกดปุ่มไหน 0:14:39.361,0:14:41.428 เขาไม่รู้ว่าเราป้อน 0:14:41.428,0:14:44.609 ข้อมูลตามเวลาจริง จากตลาดหุ้น 0:14:44.609,0:14:47.116 และเขากำลังตัดสินใจซื้อและขาย 0:14:47.116,0:14:48.870 (เสียงหัวเราะ) 0:14:49.490,0:14:52.792 และการตอบสนองบอกเขาว่าเขาได้ทำถูกหรือไม่ 0:14:52.792,0:14:55.661 และสิ่งที่เราดูก็คือ[br]เราจะสามารถขยาย อูมเวลท์ ของมนุษย์ 0:14:55.661,0:14:58.656 เพื่อที่ว่าหลังจากสองสามสัปดาห์[br]เขาจะมีประสบการณ์ตรง 0:14:58.656,0:15:04.763 ถึงการเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจโลก[br]ได้หรือไม่ 0:15:04.763,0:15:08.129 เราจะรายงานต่อภายหลังนะครับ[br]ว่านี่ได้ผลหรือไม่ 0:15:08.129,0:15:09.950 (เสียงหัวเราะ) 0:15:10.730,0:15:12.820 นี่คืออีกอย่างที่เราทำ 0:15:12.820,0:15:17.417 ระหว่างการบรรยายเช้านี้[br]พวกเราดึงเอาข้อมูลจากทวิตเตอร์ 0:15:17.417,0:15:19.855 ที่มี TED2015 แฮชแท๊ค 0:15:19.855,0:15:22.548 และเราก็ได้ทำการวิเคราะห์อารมณ์[br]โดยอัตโนมัติ 0:15:22.548,0:15:27.123 ซึ่งหมายถึงว่า คนใช้คำพูดเชิงบวก [br]เชิงลบ หรือแบบกลาง ๆ 0:15:27.123,0:15:29.567 และในขณะที่มันเกิดขึ้น 0:15:29.567,0:15:32.562 ผมรู้สึกมันได้ 0:15:32.562,0:15:36.835 และผมก็เชื่อมต่อ[br]เพื่อจับกลุ่มอารมณ์ 0:15:36.835,0:15:40.991 ของคนเป็นพัน ๆ ในเวลาจริง 0:15:40.991,0:15:44.729 และนี่เป็นประสบการณ์แบบใหม่สำหรับคน[br]เพราะว่าตอนนี้ผมรับรู้ได้ 0:15:44.729,0:15:48.026 ว่าทุกคนเป็นอย่างไร[br]และคุณชอบมันแค่ไหน 0:15:48.026,0:15:53.159 (เสียงหัวเราะ) (เสียงปรบมือ) 0:15:54.899,0:15:59.255 มันเป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่[br]กว่าที่มนุษย์จะมีได้ตามปกติ 0:15:59.845,0:16:02.538 นอกจากนั้น เรายังขยาย อูมเวลท์ [br]ของคนขับเครื่องบิน 0:16:02.538,0:16:06.624 ในกรณีนี้ เสื้อกั๊กจะส่งกระแส[br]ค่าวัดต่าง ๆ เก้าค่า 0:16:06.624,0:16:08.250 จากควอดคอปเตอร์นี้ 0:16:08.250,0:16:11.617 รวมทั้งการเอียง หัน หมุน[br]ปรับองศา และเบนส่วนหัว 0:16:11.617,0:16:15.703 และนั่นเพิ่มความสามารถในการบิน[br]ใหักับคนขับ 0:16:15.703,0:16:20.998 มันก็เหมือนกับเขามีผิวหนังที่ใหญ่ขึ้น[br]ที่ข้างบนนั้น 0:16:20.998,0:16:22.553 และนั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น 0:16:22.553,0:16:28.357 สิ่งที่เราได้จินตนาการก็คือ[br]การนำห้องคนขับที่เต็มไปด้วยมาตรวัด 0:16:28.357,0:16:32.908 และแทนที่จะพยายามอ่านทุกอย่าง[br]คุณก็เพียงแค่รู้สึกถึงมัน 0:16:32.908,0:16:35.393 เราอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูล 0:16:35.393,0:16:39.201 และมันก็มีความแตกต่าง[br]ระหว่างการเข้าถึงข้อมูลจำนวนมาก 0:16:39.201,0:16:42.289 และการรู้สึกได้ถึงมัน 0:16:42.289,0:16:46.114 ฉะนั้น ผมคิดว่าความเป็นไปได้[br]ในการขยายสำหรับมนุษย์ 0:16:46.114,0:16:48.436 ไม่ได้มีขอบเขตอยู่ที่เพียงเส้นขอบฟ้า 0:16:48.436,0:16:53.358 ลองคิดถึงนักบินอวกาศที่สามารถรู้สึกได้ 0:16:53.358,0:16:56.679 ถึงสภาพโดยรวมของสถานีอวกาศนานาชาติ 0:16:56.679,0:17:01.555 หรือ ในเรื่องนั้น มีความรู้สึกถึง[br]ภาวะที่มองไม่เห็นเกี่ยวกับสุขภาพคุณ 0:17:01.555,0:17:05.494 เช่น ระดับน้ำตาลในเลือด และภาวะของจุลนิเวศ 0:17:05.494,0:17:11.121 หรือมีการมองเห็นแบบ 360 องศา[br]หรือเห็นอินฟราเรด หรืออัลตราไวโอเล็ต 0:17:11.121,0:17:14.616 ฉะนั้น สิ่งสำคัญคือ[br]ในอนาคตที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ 0:17:14.616,0:17:19.515 เราจะสามารถเลือกอุปกรณ์รอบข้างของเรา[br]ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ 0:17:19.515,0:17:23.369 เราไม่ต้องรอของขวัญการรับสัมผัส[br]จากพระแม่แห่งธรรมชาติ 0:17:23.369,0:17:25.227 ในช่วงเวลาที่นางเป็นคนกำหนด 0:17:25.227,0:17:29.499 เช่นเดียวกับมารดาที่แสนดี[br]เธอได้มอบอุปกรณ์ที่เราต้องการ 0:17:29.499,0:17:33.632 เพื่อที่จะก้าวออกไป[br]และกำหนดทิศทางของเราเอง 0:17:33.632,0:17:35.373 ฉะนั้น คำถามก็คือ 0:17:35.373,0:17:40.598 คุณต้องการที่จะก้าวออกไป[br]แล้วประสบสัมผัสกับจักรวาลของคุณอย่างไร 0:17:40.598,0:17:42.641 ขอบคุณครับ 0:17:42.641,0:17:50.977 (เสียงปรบมือ) 0:17:59.365,0:18:01.553 คริส แอนเดอร์สัน: คุณรู้สึกได้เลยใช่ไหมครับ [br]เดวิด: ครับ 0:18:01.553,0:18:04.943 อันที่จริง นี่เป็นครั้งแรก[br]ที่ผมรู้สึกถึงการปรบมือผ่านเสื้อกั๊กนี้ 0:18:04.943,0:18:07.102 มันก็ดีครับ เหมือนนวดเลย (เสียงหัวเราะ) 0:18:07.102,0:18:10.747 คริส: ทวิตเตอร์กำลังคลั่งกันเลยครับ[br] 0:18:10.747,0:18:13.040 แล้วการทดลองกับตลาดหุ้น 0:18:13.040,0:18:17.568 นี่อาจเป็นการทดลองแรก[br]ที่จะเป็นหลักประกันเงินทุนให้กับมันไปตลอด 0:18:17.568,0:18:19.563 ใช่ไหมครับ ถ้ามันสำเร็จ 0:18:19.563,0:18:22.715 เดวิด: ครับ ใช่เลย [br]ผมจะได้ไม่ต้องเขียนขอทุนไปที่ NIH อีกแล้ว 0:18:22.715,0:18:25.532 คริส: เอาล่ะ ผมขอถามอะไรหน่อยนะ 0:18:25.532,0:18:28.702 คือผมว่า มันเจ๋งมากเลย[br]แต่ว่าหลักฐานส่วนใหญ่ที่มีจนถึงตอนนี้ 0:18:28.702,0:18:31.049 บอกว่าการทดแทนการรับสัมผัสนั้นทำงานได้ 0:18:31.049,0:18:33.156 แต่ไม่จำเป็นว่าการรับสัมผัสเพิ่มนั้น[br]จะทำงานได้ใช่ไหมครับ 0:18:33.156,0:18:36.793 ผมหมายถึงว่า มันเป็นไปได้ไหมว่า[br]คนตาบอดจะสามารถเห็นผ่านลิ้นเขาได้ 0:18:36.793,0:18:41.971 เพราะว่าคอร์เท็กซ์การมองยังมีอยู่[br]และพร้อมที่จะทำงาน 0:18:41.971,0:18:43.790 และนั่นก็เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งด้วย 0:18:43.790,0:18:46.434 เดวิด: เป็นคำถามที่ดีครับ[br]อันที่จริงเราไม่รู้เลยครับ 0:18:46.434,0:18:48.748 ว่าข้อจำกัดทางทฤษฎีของข้อมูลที่สมองรับได้[br]คืออะไร 0:18:51.062,0:18:53.378 แต่เรื่องพื้นฐานเลยก็คือ มันปรับตัวได้อย่างน่าทึ่ง 0:18:53.402,0:18:57.207 ดังนั้น เมื่อกลายเป็นคนตาบอด[br]สิ่งที่เราเคยเรียกว่าคอร์เท็กซ์การมอง 0:18:57.207,0:19:02.265 ก็จะโดนสิ่งอื่นๆ เข้าแทนที่[br]เช่นการสัมผัส การได้ยิน โดยคำศัพท์ 0:19:02.265,0:19:06.327 ฉะนั้นมันบอกเราว่า[br]คอร์เท็กส์ก็เป็นเหมือนหลักสากล 0:19:06.327,0:19:08.975 คือมันแค่ทำการคำนวณกับข้อมูลต่าง ๆ 0:19:08.975,0:19:12.076 และเมื่อเรามองไปยังเช่น อักษรเบล 0:19:12.076,0:19:15.165 คนรับข้อมูลผ่านปุ่มที่นิ้วสัมผัส 0:19:15.165,0:19:18.820 ฉะนั้นผมไม่คิดว่าเรามีเหตุผลใด[br]ที่จะคิดว่ามันมีข้อจำกัดทางทฤษฎี 0:19:18.820,0:19:20.334 ที่เรารู้ขอบเขต 0:19:21.244,0:19:24.508 คริส: ถ้าสิ่งนี้ออกมาเมื่อไร [br]คุณคงโดนรุมจีบแน่ 0:19:24.508,0:19:27.759 มันมีศักยภาพที่จะได้อะไรได้มากมายเหลือเกิน 0:19:27.759,0:19:31.690 คุณพร้อมหรือยังครับ[br]อะไรที่คุณตื่นเต้นที่สุด สำหรับสิ่งที่อาจเกิดขึ้น 0:19:31.690,0:19:34.267 เดวิด: ผมคิดว่า [br]มันมีการนำไปใช้ประโยชน์มากมาย 0:19:34.267,0:19:37.715 ในส่วนที่มากกว่าการแทนที่สัมผัส[br]สิ่งที่ผมได้กล่าวไว้ 0:19:37.715,0:19:42.085 เกี่ยวกับนักบินอวกาศในสถานีอวกาศ[br]พวกเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ 0:19:42.085,0:19:45.304 ติดตามสิ่งต่าง ๆ และพวกเขาอาจจะได้เข้าใจ[br]ว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ 0:19:45.304,0:19:48.764 เพราะสิ่งที่มันจัดการได้ดีคือ[br]ข้อมูลหลายมิติ 0:19:48.764,0:19:53.547 หัวใจสำคัญคือ ระบบการมองเห็น[br]มีประสิทธิภาพในการตรวจจับขอบและส่วนนูน 0:19:53.547,0:19:55.995 แต่พวกมันแย่มากกับการสิ่งที่โลกของเราเป็น 0:19:55.995,0:19:58.182 ซึ่งก็คือจอแบน ๆ ที่เต็มไปด้วยข้อมูล 0:19:58.182,0:20:00.585 พวกเราจึงต้องตะกายหามัน[br]ด้วยระบบที่เราต้องเพ่งความสนใจ 0:20:00.585,0:20:03.255 ดังนั้น นี่เป็นเพียงวิธีที่จะรู้สึก[br]ถึงภาวะของอะไรบางอย่าง 0:20:03.255,0:20:06.849 เหมือนกับวิธีที่คุณรู้ถึงภาวะของร่างกาย[br]อย่างที่คุณยืนอยู่ตอนนี้ 0:20:06.849,0:20:10.028 ฉะนั้นผมคิดถึงเครื่องยนต์หนัก ความปลอดภัย[br]การรู้สึกได้ถึงภาวะโรงงาน 0:20:10.028,0:20:13.092 รู้สึกได้ถึงเครื่องมือของคุณ [br]ที่เมื่อติดตั้งแล้ว จะทำงานได้ทันที 0:20:13.092,0:20:16.797 คริส: เดวิด อีเกอร์แมน นั่นมันเป็นการบรรยาย[br]ที่เหนือความคาดหมายมาก ขอบคุณมากครับ 0:20:16.797,0:20:21.576 เดวิด: ของคุณครับคริส[br](เสียงปรบมือ)