1
00:00:04,003 --> 00:00:07,826
ที่นี่คือระบบสุริยะจักรวาล ซึ่งก็คือบ้านของเราในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล

2
00:00:09,906 --> 00:00:12,271
เราอาศัยอยู่ในส่วนที่แสนสงบสุขส่วนใดส่วนหนึ่งของทางช้างเผือก

3
00:00:13,651 --> 00:00:15,483
บ้านของเราคือระบบสุริยะนั่นเอง

4
00:00:15,483 --> 00:00:20,556
การก่อตัวราว 4.5 พันล้านปีที่แล้ว
หมุนรอบศูนย์กลางกาแล็คซี่ที่

5
00:00:20,556 --> 00:00:27,928
200,000 กิโลเมตร / ชั่วโมงและหมุนครบรอบ
ทุกๆ 250 ล้านปี

6
00:00:29,518 --> 00:00:32,698
ดาวของเราดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง
ของระบบสุริยะ

7
00:00:33,928 --> 00:00:35,857
มีดาวเคราะห์แปดดวงโคจรรอบ

8
00:00:35,857 --> 00:00:39,804
อุกาบาตและดาวหางอีกล้านล้านดวง
และมีดาวเคราะห์แคระอีกนิดหน่อย

9
00:00:40,884 --> 00:00:43,855
ดาวเคราะห์แปดดวง แบ่งออกเป็นสี่ดวง
ที่เหมือนโลกของเรา ได้แก่

10
00:00:43,855 --> 00:00:47,177
ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก และดาวอังคาร

11
00:00:47,177 --> 00:00:51,976
และดาวก๊าซยักษ์สี่ดวง:
ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาวเนปจูน

12
00:00:54,106 --> 00:00:56,959
ดาวพุธเป็นที่เล็กที่สุดและ
ที่เบาที่สุดในบรรดาดาวเคราะห์ทั้งหมด

13
00:00:56,959 --> 00:01:00,416
หนึ่งปีที่ดาวพุธสั้นกว่าวันหนึ่งที่ดาวพุธ
ซึ่งนำไปสู่

14
00:01:00,416 --> 00:01:02,334
อุณหภูมิที่มีความผันผวนอย่างมาก

15
00:01:03,994 --> 00:01:06,728
ดาวพุธไม่มีชั้นบรรยากาศหรือดวงจันทร์

16
00:01:08,938 --> 00:01:12,528
ดาวศุกร์เป็นหนึ่งในวัตถุที่สว่างที่สุดใน
ระบบสุริยะ

17
00:01:12,528 --> 00:01:15,433
เป็นดาวเคราะห์ที่ร้อนที่สุด มีความดันใน
ชั้นบรรยากาศที่

18
00:01:15,433 --> 00:01:17,618
92 เท่าของบนโลก

19
00:01:20,408 --> 00:01:23,813
มีภาวะเรือนกระจกที่สุดโต่ง
นั่นหมายความว่าดาวศุกร์

20
00:01:23,813 --> 00:01:26,726
ไม่เคยมีอุณหภูมิต่ำกว่า 437 °C เลย

21
00:01:29,166 --> 00:01:31,169
ดาวศุกร์ก็ไม่ได้มีดวงจันทร์เช่นกัน

22
00:01:33,189 --> 00:01:35,691
โลกเป็นบ้านของเราและเป็นดาวเดียว

23
00:01:35,691 --> 00:01:39,820
ที่มีอุณหภูมิที่อยู่ในระดับพอเหมาะ
ทำให้เกิดน้ำที่มีสถานะเป็นของเหลว

24
00:01:40,270 --> 00:01:44,916
นอกจากนี้ก็ยังเป็นสถานที่เดียวในขณะนี้
ที่รู้ว่ามีสิ่งมีชีวิตดำรงอยู่

25
00:01:46,246 --> 00:01:47,921
โลกมีดวงจันทร์หนึ่งดวง

26
00:01:50,161 --> 00:01:52,867
ดาวอังคารเป็นดาวเคราะห์ที่มีขนาดเล็กเป็นอันดับสอง
ในระบบสุริยะ

27
00:01:52,867 --> 00:01:56,127
และแทบจะมีมวลไม่มากพอจึงทำให้
เกิดชั้นบรรยากาศที่เบาบาง

28
00:01:56,717 --> 00:01:59,781
โอลิมปัสมอนส์เป็นภูเขาที่ใหญ่ที่สุด
ในระบบสุริยะ

29
00:01:59,781 --> 00:02:02,563
สูงมากกว่าสามเท่าของยอดเขา
เอเวอร์เรส

30
00:02:04,253 --> 00:02:06,012
ดาวอังคารมีดวงจันทร์ขนาดเล็กสองดวง

31
00:02:09,112 --> 00:02:12,278
ดาวพฤหัสบดีมีขนาดใหญ่ที่สุดและมีมวลมากที่สุด
ในบรรดาดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ

32
00:02:13,228 --> 00:02:15,571
มันประกอบด้วยไฮโดรเจนและ
ฮีเลียมเป็นส่วนใหญ่

33
00:02:15,571 --> 00:02:19,218
และเป็นสถานที่ที่พบพายุ
ใหญ่ที่สุดและรุนแรงมากที่สุดเท่าที่เรารู้จัก

34
00:02:21,098 --> 00:02:25,082
พายุที่ใหญ่ที่สุดคือจุดแดงใหญ่,
มีขนาดเป็นสามเท่าของโลก

35
00:02:26,142 --> 00:02:28,288
ดาวพฤหัสบดีมีดวงจันทร์หกสิบเจ็ดดวง

36
00:02:29,868 --> 00:02:33,411
ดาวเสาร์เป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองและ
มีความหนาแน่นที่น้อยที่สุด

37
00:02:33,411 --> 00:02:34,489
ในบรรดาดาวเคราะห์ทั้งหมด

38
00:02:35,549 --> 00:02:38,912
เปรียบเทียบได้ว่าหากคุณมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่
ดาวเสาร์จะลอยอยู่ในนั้น

39
00:02:40,412 --> 00:02:43,988
ดาวเสาร์เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับ
วงแหวนที่มองเห็นได้ชัดของมัน

40
00:02:45,308 --> 00:02:47,113
มันมีดวงจันทร์หกสิบสองดวง

41
00:02:48,093 --> 00:02:51,602
ดาวยูเรนัสเป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่เป็นอันดับสาม
และเป็นหนึ่งในที่หนาวเย็นมากที่สุด

42
00:02:52,512 --> 00:02:55,121
และก็ยังเล็กที่สุด
ในบรรดาดาวก็าซยักษ์

43
00:02:55,931 --> 00:02:58,715
สิ่งที่พิเศษเกี่ยวกับดาวยูเรนัสก็คือว่า
แกนของการหมุน

44
00:02:58,715 --> 00:03:02,427
เอียงไปด้านข้างในทางตรงกันข้ามกับ
ดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ทั้งเจ็ดดวง

45
00:03:03,017 --> 00:03:04,641
มันมีดวงจันทร์ยี่สิบเจ็ดดวง

46
00:03:06,441 --> 00:03:10,494
ดาวเนปจูนเป็นดาวเคราะห์ที่สุดท้ายในระบบ
สุริยะและมีความคล้ายคลึงกับดาวยูเรนัส

47
00:03:11,234 --> 00:03:16,198
มันไกลจากดวงอาทิตย์มากจน
หนึ่งปีที่ดาวเนปจูนเป็น 164 ปีของโลก

48
00:03:18,298 --> 00:03:21,700
ความเร็วลมสูงสุดที่เคยวัด
ได้ในพายุบนดาวเนปจูน,

49
00:03:21,700 --> 00:03:25,281
ก็เพียงเกือบๆ 2,100 กิโลเมตร / ชั่วโมง

50
00:03:27,561 --> 00:03:29,625
ดาวเนปจูนมีดวงจันทร์สิบสี่ดวง

51
00:03:32,285 --> 00:03:34,458
ถ้าเราเปรียบเทียบขนาดของดาวเคราะห์

52
00:03:34,458 --> 00:03:37,177
ความแตกต่างระหว่างพวกมัน
จะเป็นที่ชัดเจนมากขึ้น

53
00:03:38,287 --> 00:03:41,237
ดาวพฤหัสบดีเป็นผู้นำโด่งในแง่ของ
ขนาดและน้ำหนัก;

54
00:03:42,777 --> 00:03:44,540
ในทางตรงข้าม ขนาดที่เล็กของดาวพุธ

55
00:03:44,540 --> 00:03:48,022
มีขนาดเล็กกว่าดวงจันทร์แกนีมีด
หนึ่งในบริวารดาวพฤหัสบดี

56
00:03:48,592 --> 00:03:53,128
ดาวพฤหัสบดีมีขนาดใหญ่ เพียงแค่มวลของมัน
ก็มีประมาณ 70% ของมวล

57
00:03:53,128 --> 00:03:56,954
ของทุกดาวเคราะห์รวม ๆ กันและ
ส่งผลกระทบอย่างมากต่อสิ่งที่แวดล้อมมัน

58
00:03:58,134 --> 00:04:01,401
นับเป็นโชคดีสำหรับโลกเพราะ
ดาวพฤหัสบดีดึงดูด

59
00:04:01,401 --> 00:04:05,147
ดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่จำนวนมากที่สามารถ
ชนโลกจนทำให้สิ่งชีวิตบนโลกสูญพันพธุ์ได้

60
00:04:07,377 --> 00:04:11,606
แม้แต่ดาวพฤหัสบดียังดูเป็นดาวแคระไปเสีย
เมื่อเปรียบเทียบกับดวงอาทิตย์

61
00:04:12,326 --> 00:04:15,201
เรียกดาวพฤหัสบดีว่าใหญ่ดูจะ
ลำเอียงกับดวงอาทิตย์

62
00:04:15,731 --> 00:04:19,789
99.86% ของมวลในระบบสุริยะ
มาจากดวงอาทิตย์

63
00:04:20,829 --> 00:04:23,881
ส่วนใหญ่ก็ประกอบด้วย
ไฮโดรเจนและฮีเลียม

64
00:04:23,881 --> 00:04:28,288
น้อยกว่า 2% เป็นธาตุหนัก
เช่นออกซิเจนหรือเหล็ก

65
00:04:29,508 --> 00:04:34,717
ที่แกนของดวงอาทิตย์เผาไฮโดรเจน
620 ล้านตันในแต่ละวินาที

66
00:04:34,717 --> 00:04:39,410
และสร้างพลังงานพอที่จะตอบสนองความ
ความต้องการของมนุษย์มานานเนิ่นนาน

67
00:04:41,580 --> 00:04:44,000
แต่ไม่เพียงดาวเคราะห์แค่แปดดวง
โคจรรอบดวงอาทิตย์

68
00:04:44,630 --> 00:04:47,559
ดาวเคราะห์น้อยและดาวหางนับล้านล้าน
ก็ยังโคจรอยู่

69
00:04:48,779 --> 00:04:51,061
ส่วนใหญ่ของพวกมันรวมกันอยู่คล้าย
เข็มขัดสองเส้น:

70
00:04:51,891 --> 00:04:54,607
หนึ่ง แถบดาวเคราะห์น้อยระหว่างดาวอังคารและดาว
ดาวพฤหัสบดี

71
00:04:55,127 --> 00:04:57,596
และ สอง แถบไคเปอร์ที่ขอบของ
ระบบสุริยะ

72
00:04:58,766 --> 00:05:02,530
เข็มขัดเหล่านี้เป็นบ้านของวัตถุที่นับไม่ถ้วน
บางอย่างมีขนาดเพียงเท่าอนุภาคฝุ่น

73
00:05:02,530 --> 00:05:04,632
บางอย่างมีขนาดเท่าดาวเคราะห์แคระ

74
00:05:06,372 --> 00:05:09,176
วัตถุที่รู้จักกันดีที่สุดใน
แถบดาวเคราะห์น้อยคือเซเรส

75
00:05:09,176 --> 00:05:15,093
วัตถุส่วนใหญ่รู้จักกันดีในแถบไคเปอร์
มีดาวพลูโต Makemake และ Haumea

76
00:05:16,313 --> 00:05:18,984
โดยปกติแล้วเราจะอธิบายแถบดาวเคราะห์น้อยเป็น

77
00:05:18,984 --> 00:05:21,686
ส่วนที่หนาแน่นและเกิดการ
ชนอย่างต่อเนื่อง

78
00:05:22,916 --> 00:05:26,600
แต่ในความเป็นจริง มีดาวเคราะห์น้อย
กระจายไปทั่วบริเวณ ซึ่ง

79
00:05:26,600 --> 00:05:31,301
กว้างใหญ่เสียจนยากที่จะ
เห็นดาวเคราะห์น้อยสองดวงในคราวเดียว

80
00:05:32,761 --> 00:05:34,843
แม้จะมีดาวเคราะห์น้อยหลายพันล้านดวงในแถบ

81
00:05:34,843 --> 00:05:37,560
แถบดาวเคราะห์น้อยยังคงดูเหมือนพื้นที่่ว่างเปล่า
นั่นเอง

82
00:05:37,990 --> 00:05:41,540
และยังคงมีการชนกัน
ครั้งแล้วครั้งเล่า.

83
00:05:41,940 --> 00:05:44,584
มวลของแถบทั้งสองนั้น
แทบจะไม่มีความสำคัญ:

84
00:05:44,584 --> 00:05:49,938
แถบดาวเคราะห์น้อยมีมวลน้อยกว่า
4% ของมวลดวงจันทร์ของเราและ

85
00:05:49,938 --> 00:05:53,863
แถบไคเปอร์มีขนาดระหว่าง 1/25 ถึง
1/10 ของมวลของโลก

86
00:05:57,233 --> 00:05:59,648
วันหนึ่งระบบสุริยะจะหายไป
ไม่มีอยู่แล้ว

87
00:06:00,598 --> 00:06:04,918
ดวงอาทิตย์จะตาย และดาวพุธ ดาวศุกร์
บางทีโลกด้วยก็จะถูกทำลาย

88
00:06:06,568 --> 00:06:11,348
ในเวลา 500 ล้านปี ดวงอาทิตย์จะร้อนขึ้นเรื่อยๆ
และร้อนจนถึงจุดหนึ่ง

89
00:06:11,348 --> 00:06:13,109
มันจะละลายเปลือกโลก

90
00:06:15,269 --> 00:06:18,262
จากนั้นดวงอาทิตย์จะโตขึ้นเรื่อยๆ
จนกระทั่งกลืนโลก

91
00:06:18,262 --> 00:06:21,525
หรืออย่างน้อยก็ทำให้โลกกลายเป็นทะเลลาวา

92
00:06:24,415 --> 00:06:27,558
เมื่อดวงอาทิตย์ได้ถูกเผาไหม้เป็นเชื้อเพลิงเกือบทั้งหมดและ
สูญเสียมวลไปมาก

93
00:06:27,558 --> 00:06:32,152
มันจะหดตัวจนเป็นดาวแคระขาวและเผาไหม้ช้าๆ
ต่อไปอีกไม่กี่พันล้านปี

94
00:06:32,152 --> 00:06:35,272
ก่อนที่จะหายไปอย่างสิ้นเชิง

95
00:06:36,532 --> 00:06:40,622
จากนั้น ท้ายที่สุดแล้ว ชีวิตในระบบสุริยะ
คือสิ่งเป็นไปไม่ได้

96
00:06:41,602 --> 00:06:43,460
ทางช้างเผือกเองจะแทบจะไม่ได้สังเกตว่า

97
00:06:44,280 --> 00:06:48,372
ส่วนเล็ก ๆ อย่างระบบสุริยะในแขนข้างหนึ่ง
จะกลายเป็นเพียงจุดที่มืดขึ้นเล็กน้อย

98
00:06:48,982 --> 00:06:54,094
และมนุษย์จะหายไป
หรือออกจากระบบสุริยะ

99
00:06:54,094 --> 00:06:56,721
เพื่อการค้นหาดาวบ้านดวงใหม่

100
00:06:57,121 --> 00:07:05,000
คำบรรยายโดยชุมชน Amara.org :
Thunwa Somboonvit, ytuaeb sciencemath